บุรีรัมย์ - ศพหนุ่มแรงงานเหยื่อสงครามอิสราเอลที่เสียชีวิตและได้รับการพิสูจน์อัตลักษณ์รายแรกของบุรีรัมย์กลับถึงบ้านเกิดแล้ว ญาติร้องระงม แม่เห็นร่างไร้วิญญาณลูกชายทำใจไม่ได้ร้องไห้แทบขาดใจ จนท.ลูกหลานต้องประคองและช่วยกันปลอบ
วันนี้ (2 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศพของนายจรูญ ชาติดำดี อายุ 40 ปี หนึ่งในแรงงานที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สู้รบระหว่างกลุ่มฮามาสกับกองกำลังอิสราเอล ถูกส่งกลับมาถึงบ้านเกิด ที่บ้านเลขที่ 37 ม.7 ต.บ้านยาง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์แล้วเมื่อคืนนี้ ท่ามกลางเสียงร้องไห้ระงมของครอบครัวและญาติพี่น้อง โดยเฉพาะ นางจันทร์ วิเศษสัตย์ อายุ 75 ปี ผู้เป็นแม่ที่ยังทำใจไม่ได้ต่อการสูญเสียลูกชายอันเป็นที่รัก ทันทีที่เห็นร่างไร้วิญญาณของลูกชายก็ร้องไห้แทบขาดใจ จนท.ลูกหลานต้องช่วยกันประคอง ปลอบใจเอายาดมให้ดมเพราะกลัวคุณยายจะเกิดภาวะช็อก
ทั้งนี้ยังได้มีแรงงานจังหวัดบุรีรัมย์, สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.บุรีรัมย์ จัดหางานจังหวัด ผู้แทนจากหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด รวมทั้งปลัดอาวุโสอำเภอลำปลายมาศ ผู้นำท้องถิ่น ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้าน มาร่วมรอรับศพของนายจรูญด้วย
ผู้เป็นแม่ได้เตรียมเสื้อสีขาวตัวใหม่ ผ้าขาวม้าไหม และโสร่งไหมที่ทอด้วยมือตัวเองไว้ให้ลูกชายสวมใส่เป็นครั้งสุดท้ายด้วย โดยครอบครัวมีกำหนดจะตั้งสวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 3 คืน ก่อนจะเคลื่อนร่างไปประกอบพิธีฌาปนกิจที่วัดในหมู่บ้านในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้
นางหนู อาของนายจรูญ กล่าวทั้งน้ำตาว่า เสียใจที่หลานต้องเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ แต่ก็ดีใจที่ทางการได้ช่วยนำร่างหลานส่งกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้าน ซึ่งล่าสุดได้คุยกับหลานครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 66 ก่อนจะติดต่อไม่ได้อีก ก็ขอให้หลานไปอยู่ในภพภูมิที่ดี
ด้าน ร.อ.กิตสมพงษ์ กล้าหาญ แรงงาน ต.บุรีรัมย์ กล่าวว่า นายจรูญ เป็นศพแรกของแรงงานชาวบุรีรัมย์ที่มีการตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์และส่งกลับภูมิลำเนาเพื่อให้ญาติประกอบพิธีทางศาสนา ส่วนอีก 2 รายมีรายชื่อเสียชีวิตแต่ต้องรอการตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์จากทางการอิสราเอลเพื่อยืนยันอีกครั้ง ส่วนมาตรการในการช่วยเหลือครอบครัวแรงงานที่เสียชีวิตก็จะได้รับเงินช่วยเหลือตามสิทธิ ทั้งจากทางการไทยและทางการอิสราเอล สำหรับงานศพทางหน่วยงานในสังกัดฯ ก็จะเข้ามาช่วยกันดูแล