รมช.ต่างประเทศ เผย มีแผนสำรองอพยพคนไทยหากสู้รบรุนแรงต้องปิดน่านฟ้า ย้ำคุยทูตฯรับปากสงครามจบ ต่อวีซ่ารับแรงงานไทยทำงานเหมือนเดิม
วันนี้ (23ต.ค.) เมื่อเวลา 15.40 น. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าแรงงานไทยที่เสียชีวิต ว่า ตอนนี้เราต้องประสานงานหลายๆ ทาง ซึ่งยังไม่มีความแน่ชัดว่าเป็นใคร คงต้องเริ่มเก็บดีเอ็นเอเพื่อตรวจสอบ
เมื่อถามถึงความยากในการพิสูจน์อัตลักษณ์นั้น นายจักรพงษ์ กล่าวว่า ต้องมีการประสานกับหลายทาง และต้องมีการเปรียบเทียบเรื่องของดีเอ็นเอเข้ามา เพื่อจะส่งไปที่อิสราเอล และหากทางอิสราเอลยืนยันแน่ชัดแล้ว ก็จะส่งศพกลับมาทันที ซึ่งเรามีเครื่องบินเดินทางไปทุกวันอยู่แล้ว สามารถส่งกลับมาพร้อมกับเครื่องบินนั้นได้ ซึ่งการพิสูจน์อัตลักษณ์จะต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพื่อยืนยันตัวตนของแรงงานไทย ทั้งนี้ ตนได้พูดคุยกับสถาบันนิติเวชในเมืองไทยแล้วซึ่งก็ยอมรับในหลักการที่อิสราเอลทำทุกอย่าง และถูกต้องหมด ถือเป็นมาตรฐานอยู่แล้ว ซึ่ง 8 ร่างที่ส่งกลับมาก็ทำในลักษณะเดียวกัน
เมื่อถามต่อว่าความท้าทายในการพูดคุยกับเอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล ในเรื่องแรงงานไทย นายจักรพงษ์กล่าวว่า ต้องพยายามพูดคุยกับเขา ว่าแรงงานเราเป็นคนตัดสินใจคนสุดท้าย และทุกคนที่ประเทศไทยเป็นห่วง ทำให้เขารู้สึกว่าเขาต้องรีบกลับมา ก็น่าจะกลับมาได้
เมื่อถามต่อว่า กลุ่มที่ออกมาสนับสนุนฮามาสในประเทศต่างๆ จะมีผลกระทบต่อประเทศไทยด้วยหรือไม่ นายจักรพงษ์กล่าวว่า ต้องมองหลายส่วน คงต้องสงวนท่าทีไว้
เมื่อถามอีกว่าหากแรงงานไทยเดินทางกลับมาทั้งหมด 30,000 คน มีจำนวนเที่ยวบินที่จะรองรับการเดินทางเพียงพอหรือไม่ นายจักรพงษ์ กล่าวว่า ตอนนี้เดินทางกลับมาได้แล้ว 3,000 คน ซึ่ง หากอพยพกันแบบเร็วๆ ตนสามารถหาเครื่องบินเพิ่มเข้าไปได้ โดยในส่วนกรอบเวลาอยากให้เร็วที่สุด เพราะไม่แน่ใจว่าสถานการณ์จะเลวร้ายลงวันไหน ถ้าใครยืนยันว่าจะกลับเราพร้อมทุกอย่างตอนนี้ไม่ใช่แค่ 4 สายการบินของไทยที่ดูแลอยู่ ยังมีสายการบินสไปซ์เจ็ท และอีก 2-3 สายการบินติดต่อไว้ทั้งหมดแล้ว รวมถึงสายการบินอื่นๆจากทั่วโลกที่แสดงความช่วยเหลือมา ทั้งนี้ มีการเตรียมแผนสำรองไว้แล้ว หากมีการปิดน่านฟ้าอีกครั้ง
เมื่อถามถึงกรณีแรงงานไทยเป็นห่วงว่าหากเดินทางกลับจากอิสราเอลแล้วจะไม่สามารถกลับไปได้อีก นายจักรพงษ์กล่าวว่า ทางอิสราเอลยืนยันว่า แรงงานทั้งหมดที่มีอยู่จะต่อวีซ่าให้ ถ้าสงครามจบยินดีรับแรงงานไทยกลับไปทุกคนและเรื่องนี้ตนก็ได้มีการพูดคุยกับเอกอัครราชทูตไทย ประจำอิสราเอลโดยตลอด
เมื่อถามว่า อีกไม่กี่วันจะมีการปฏิบัติการภาคพื้นดิน ได้เตรียมมาตรการ เพื่อโน้มน้าวคนไทยให้เดินทางกลับหรือไม่เพราะอาจจะส่งผลให้การประสานงานรับกลับยากยิ่งขึ้น นายจักรพงษ์ กล่าวว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงไป
เมื่อถามต่อถึงเงินเดือนที่แรงงานไทยยังไม่ได้นั้นนายจักรพงษ์ กล่าวว่า จะมีการพูดคุยกับกระทรวงแรงงานแล้ว ว่าต้องไปพูดคุยกับนายจ้างที่มีอยู่ประมาณ 10 บริษัท ไม่ให้ใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้าง ในการให้แรงงานอยู่ต่อเรื่องนี้ต้องรีบทำ.