ศูนย์ข่าวขอนแก่น-พ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดจังหวัดขอนแก่น เห็นด้วยกับโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000บาท อยากให้ทุนคนในครอบครัวได้ครบ จะลงทุนซื้อสินค้ามาขายและเป็นทุนทำนาปรัง ยอมรับแม้จะอยากใช้เงินโครงการนี้ แต่ก็เป็นห่วงการคลังของประเทศ ขณะที่บางคนไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลต้องกู้เงินหลักหลายแสนล้านมาแจกคนแบบหว่านแห ไม่ต่างกับการตำน้ำพริกละลายมหาสมุทร
ที่จังหวัดขอนแก่น บรรยากาศการจับจ่ายซื้อขายที่ตลาดสดโคกสี ต.โคกสี อำเภอเมืองขอนแก่นเป็นไปอย่างคึกคัก กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าต่างพูดคุยถึงการแถลงข่าวโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ของนายกรัฐมนตรี หลายคนบอกว่าดีใจที่มีความชัดเจนว่าจะได้ใช้จ่ายเงินในโครงการนี้ ส่วนใหญ่บอกว่าจะเอาเงินไว้ซื้อสินค้ามาขาย และส่วนหนึ่งจะซื้อปุ๋ยและเมล็ดพันธุ์ข้าว เพื่อเตรียมทำนาปรัง จึงอยากทราบรายละเอียดว่าสามารถใช้เงินซื้อของในร้านค้าใดได้บ้าง
อย่างไรก็ตามก็มีหลายคนเช่นกันที่บอกว่า แม้จะอยากใช้เงินในโครงการนี้ แต่ก็เป็นห่วงสถานะการเงินการคลังของประเทศจะมีปัญหาในอนาคต เพราะเงินกว่า 5 แสนล้านบาทที่นำมาแจกคือหนี้ก้อนใหม่ก้อนใหญ่มากของประเทศที่ลูกหลานต้องรับภาระ จึงอยากให้รัฐบาลบริหารประเทศเพื่อให้เศรษฐกิจในภาพรวมให้ดีขึ้นมากกว่าการแจกเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชั่วครั้งครั้งคราว
นางสาวพัชรินทร์ ทรงหาคา แม่ค้าขายผักตลาดสดโคกสี บอกว่า รู้สึกดีใจที่รัฐบาลอนุมัติโครงการเติมเงิน 1หมื่นบาท เงินที่ได้ก็จะนำไปใช้จ่ายในครอบครัว และอยากให้ครอบครัวได้เงินทุกคน เงินที่ได้มา ส่วนหนึ่งจะนำไปซื้อปุ๋ยเพื่อทำนา ที่เหลือก็จะนำมาลงทุนซื้อผักไปขาย ส่วนกฎเกณฑ์ที่รัฐบาลตั้งมานั้น ตนมองว่าอายุ 16-17 ปี ยังอายุน้อยเกินไป ยังไม่ควรจะได้รับเงินก้อนนี้ หากให้หมดทุกคน กลัวเงินในคลังของประเทศ จะนำออกมาใช้มากจนเกินไป และถ้าวันไหนที่มีการอนุมัติเงินออกมา บรรยากาศการจับจ่ายเลือกซื้อสินค้าคงจะคึกคัก เศรษฐกิจน่าจะดีขึ้นแน่นอน
ขณะที่นายเอ็ม พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ให้ความเห็นว่าไม่เห็นด้วยกับโครงการแจกเงินดังกล่าวของรัฐบาล เพราะสถานการณ์ปัจจุบันไม่ได้มีเหตุภัยพิบัติทางธรรชาติอย่างหนักหรืออยู่ภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจ หรือเกิดโรคระบาดไปทั่วประเทศจนผู้คนไม่สามารถทำมาหากินอะไรได้ เศรษฐกิจการค้า วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในสังคมยังเป็นไปตามปกติ ไม่มีเหตุจำเป็นต้องกู้เงินหลักหลายแสนล้านมาแจกประชากรในชาติเพื่อให้นำไปใช้จ่ายค่าอยู่ค่ากิน ที่สำคัญเป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจแค่ชั่วคราวไม่กี่เดือน
“ถ้าจะกู้เงินหลักหลายแสนล้านควรกู้มาพัฒนาโครงการคมนาคม ระบบสาธารณูปโภคหรือโครงการอะไรก็ได้ที่สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน หรือพัฒนาระบบการค้าการลงทุนที่จะส่งผลดีต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืนในระยะยาวมากกว่า ไม่อยากให้ตำน้ำพริกละลายมหาสมุทร”นายเอ็มกล่าว