ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ตำรวจคุมตัวคนขับรถตู้รับจ้างไม่ประจำทางไปตรวจร่างกายหลังถูกกล่าวหา ข่มขืนเด็กหญิงวัย 13 ปีก่อนนำตัวไปสอบปากคำ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เข้าให้กำลังใจครอบครัวเด็กหญิง พร้อมให้ความเป็นธรรมต่อเรื่องที่เกิดขึ้น
วันนี้ (6 พ.ย.) ที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4 ตำรวจ สภ.แวงน้อย จังหวัดขอนแก่น ได้ควบคุมตัวนายเดช นันทะวิทยาคม อายุ 50 ปี ไปเก็บตัวอย่าง DNA พร้อมรถตู้หมายเลขทะเบียน 33-8316 กรุงเทพมหานคร ไปตรวจสอบเช่นกัน หลังถูกญาติของผู้เสียหายเด็กหญิงวัย 13 ปี ชาวบ้านโคกสูง ตำบลละหานนา อำเภอแวงน้อย จังหวัดขอนแก่น กล่าวอ้างว่าเป็นคนลงมือมอมยาแล้วข่มขืน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ก่อนจะนำตัวนายเดชเดินทางไปยัง สน.บางกอกใหญ่ เพื่อให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำต่อไป
ส่วนที่โรงพยาบาลขอนแก่น พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย รรท.ผบช.ภ.4. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น ได้เดินทางเข้าพบครอบครัวของเด็กหญิงวัย 13 ปีที่กำลังรักษาตัว ซึ่งในขณะนี้ยังไม่สามารถพูดคุยได้ พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น ให้ข้อมูลว่า คดีนี้เด็กไปพักอาศัยกับพ่อแม่พื้นที่บางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ ช่วงปิดเทอม หลังกลับมาบ้านมีอาการป่วยผิดปกติ คุณย่าจึงพามาแจ้งความที่ สภ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น
จากนั้นได้ทำการตามกระบวนการ โดยเด็กได้บอกพ่อกับแม่ว่าคนขับรถตู้ที่ให้ไปส่งที่กรุงเทพฯ ได้ล่วงละเมิด ตอนนี้เด็กอยู่ที่โรงพยาบาลขอนแก่น และไม่สามารถให้การได้ในตอนนี้ เบื้องต้นคนขับรถตู้เป็นคนในพื้นที่ ไม่ได้หลบหนีและให้การปฏิเสธ ส่วนการสอบสวนจะให้ทางพื้นที่ทำการสอบสวน แต่จุดเริ่มต้นต้องรอสอบเด็กอายุ 13 ปี เพื่อรวบรวมหลักฐานต่อไป
ขณะที่ นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น กล่าวว่า เด็กยังมีอาการผิดปกติ และไม่พร้อมให้ข้อมูล หลังจากเหตุการณ์คุณย่าพาไปรักษาที่โรงพยาบาลชุมชนใกล้บ้าน จากนั้นไม่ดีขึ้น ส่งต่อไปที่สถาบันพัฒนาเด็กราชนครินทร์ ขอนแก่น จากนั้นส่งต่อมาตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลขอนแก่น ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. ตอนนี้กำลังไล่ตรวจทุกส่วน และวันนี้กำลังจะตรวจสมอง แต่โดยรวมยังไม่พบความผิดปกติในร่างกาย ทั้งนี้ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาช่วยเหลือเด็ก แต่ต้องรอให้เด็กพร้อมก่อน เพราะจุดเริ่มต้นอยู่ที่เด็ก ทางเราทำตามที่หน่วยงานร้องขอมา หากตรวจเรียบร้อยจะส่งผลกลับไป
ด้านนางสาวหนิง ขอสงวนชื่อ นามสกุลจริง เป็นภรรยาของนายเดช ผู้ถูกกล่าวอ้าง ได้เปิดสมุดบันทึกการเดินทางของลูกค้าเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 66 โดยในวันดังกล่าวมีผู้โดยสารเต็มคันรถ และมีนายเดชเป็นคนขับจริง โดยได้มีพ่อของเด็กหญิงติดต่อมาให้ไปรับ และเดินทางกลับในวันที่ 30 ต.ค. 66 จริง แต่ในส่วนของเหตุการณ์ที่มีการกล่าวอ้างนั้นตนเองก็ตกใจ หลังจากทราบข่าวได้มีการพูดคุยกับแฟนของตนเอง โดยนายเดชบอกว่าไม่ได้ก่อเหตุแต่อย่างใด เพราะหากเป็นเรื่องจริง ทำไมผู้เสียหายไม่แจ้งความตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 66
แต่เรื่องได้ผ่านมา 1 เดือน ถึงมีการแจ้งความต่อทางตำรวจ ที่ผ่านมาตนเองกับครอบครัวเด็กหญิงวัย 13 ปี ได้เรียกใช้บริการตนมาแล้วถึง 3 ครั้ง โดยทางพ่อของเด็กหญิงจะเป็นคนที่โทร.ติดต่อมาเพื่อให้ไปรับตัวเพื่อเดินทางมายังกรุงเทพมหานคร ตนเองเชื่อใจว่าแฟนไม่ได้ก่อเหตุในครั้งนี้ เพราะได้ประกอบอาชีพรถตู้รับจ้างมานานกว่า 10 ปี และเป็นอาชีพหลักจะไม่มีทางทำผิดแน่นอน
ขณะที่นายปริญญา หัสดินทร์ ณ อยุธยา หัวหน้ากลุ่มวิชาการขนส่ง สำนักงานขนส่งจังหวัดขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดขอนแก่น ได้เดินทางมาตรวจสอบเอกสารของรถตู้คันที่ใช้ในวันเกิดเหตุ พบว่าเป็นรถตู้โตโยต้า หมายเลขทะเบียน 33-8316 กรุงเทพมหานคร มีการจดทะเบียนขอเป็นรถโดยสารไม่ประจำทางถูกต้องตาม พ.ร.บ.ขนส่งทางบก มีการต่อทะเบียนถึงปี 2567