กาญจนบุรี - สองสามีภรรยาร้องสื่อถูกตามราวีหลังลาออกจากร้านนวดกลางเมืองนครปฐม มาเปิดร้านใหม่ ทำให้นายเก่าไม่พอใจได้ยินกระแสหมอนวดจะย้ายตามขอมาอยู่ด้วย พาพวกแต่งกายคล้ายตำรวจบุกด่าหยาบคายถึงร้าน แจ้งความคดีไม่คืบ
วันนี้ (26 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการร้านนวดแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม ว่า ถูกชายฉกรรจ์หลายคน หนึ่งในนั้นเป็นชายแต่งกายคล้ายตำรวจร่วมด้วย ได้บุกขู่ถึงหน้าร้านหลังจากเปิดกิจการได้ไม่นานคาดว่าคู่แข่งทางการค้า เพราะเพิ่งลาออกมาตั้งร้านใหม่ไม่นาน โดยได้ไปแจ้งความไว้แล้ว แต่คดีไม่คืบ ล่าสุด ถูกชาย 2 คนสวมหมวกไอ้โม่ง บุกใช้หินปาใส่กระจกร้านกลางดึก โดยวอนสื่อช่วยเป็นกระบอกเสียงให้ช่วยสงบศึกเพราะอีกฝ่ายเป็นคนมีอิทธิพลในพื้นที่ ตอนนี้เจ้าของร้านผวาหนัก หวั่นหากินไม่ได้ในพื้นที่
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบร้านสบายกาย นวดเพื่อสุขภาพ ถนนราชวิถี ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม โดยได้พบกับนายกฤษตฌาพนธ์ บัวประเสริฐ อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดนครปฐม เจ้าของร้านและน.ส.กัญญพัชร สัตบุต อายุ 40 ปีชาวจังหวัดเพชรบุรี ผู้จัดการร้าน สองสามีภรรยาซึ่งได้นำภาพวงจรปิดช่วงเวลาเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณตี 1 เศษของคืนวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้มีชาย 2 คนสวมหมวกคลุมหน้ามิดชิด ได้วิ่งมาที่หน้าร้านและได้ใช้ก่อนหินปาใส่กระจกร้าน 2 ก้อน ก่อนจะวิ่งหลบหนีไป โดยภายในร้านมีพนักงานหญิงที่นอนอยู่ในร้านเกือบถูกก้อนหินที่ปาเข้ามาในร้าน
นอกจากนี้ ยังได้มีการนำคลิปภาพและเสียง มาให้ผู้สื่อข่าวดู โดยปรากฏเป็นกลุ่มชาย 4 คน โดย 1 ในนั้นได้แต่งกายครึ่งท่อนคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจและหญิงอีก 1 คน ได้มาที่หน้าร้านและขอเบอร์เจ้าของร้านโดยได้โทร.ไปพูดคุยด้วยความโมโห และพูดจาหยาบคายหลายนาที ซึ่งเชื่อว่าเป็นหนึ่งในคนดังในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ที่ไม่พอใจหลังจากมีการเปิดร้านดังกล่าวเพียงไม่กี่วัน และเป็นคนที่เปิดธุรกิจเหมือนกันมาก่อเหตุ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 กันยายน 66
น.ส.กัญญพัชร กล่าวว่า เหตุการณ์ที่ปรากฏในคลิปเป็นชาย 2 คนสวมหมวกไอ้โม่งเข้ามาปาหินใส่ร้าน โดยก้อนแรกเกือบจะโดนพนักงานที่นอนในร้าน และอีกก้อนตกอยู่หน้าเคาน์เตอร์ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ส่วนคลิปที่มีชาย 4 คนมาที่หน้าร้าน และ 1 ในนั้นเชื่อว่าเป็นตำรวจมากับหญิงอีก 1 คน เป็นการมาข่มขู่ตนที่กำลังทำงานในร้าน โดยชายคนหนึ่งได้ทราบชื่อคือนายฐา (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าของร้านนวดเก่าที่ตนเองได้เคยทำงานอยู่และเพิ่งมาเป็นผู้จัดการร้านที่เกิดเหตุ โดยมีการข่มขู่เพื่อจะขอเบอร์เจ้าของร้านสบายกาย โดยตนได้บอกว่าไม่อยู่ ตนจึงได้ตัดสินใจให้เบอร์โทร.ไป ซึ่งได้โทร.ไปด่าข่มขู่ต่างๆ นานา และขู่ว่าจะทำทุกวิถีทางให้ร้านนี้ปิดให้ได้ โดยเหตุการณ์วันนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา และได้ไปแจ้งความไว้แต่คดียังไม่คืบหน้า
น.ส.กัญญพัชร บอกอีกว่า หลังจากนั้นชายคนดังกล่าวซึ่งเป็นคนเดิมได้ขับรถมาจอดที่หน้าร้านหลายครั้ง โดยครั้งหนึ่งมีการขับรถมาจอด 2 คัน เป็นรถเก๋ง และรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ซึ่งได้มีการเปิดกระจกมองหน้าลักษณะกดดัน ก่อนจะมีเหตุการณ์บุกมาปาที่กระจกร้าน ซึ่งก่อนหน้าเคยได้มีการไปปรึกษาผู้ใหญ่ที่เคารพให้ช่วยเจรจาโดยทางเขารับปากว่าจะหยุด แต่ยังมีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีก และตอนนี้ที่ร้านเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่สามารถรับลูกค้าได้
โดยประเด็นหลักน่าจะเป็นหลังจากที่ตนได้ลาออกมาแล้วได้มาร่วมกันลงทุนกับสามี เพื่อเปิดร้านนวดซึ่งเป็นธุรกิจเหมือนกับที่ทำงานเดิม น่าจะเป็นชนวนความไม่พอใจของเจ้าของร้านเก่า และไม่กี่วันก่อนหน้าที่จะมีการปาหินใส่ร้านได้มีกระแสว่าจะมีพนักงานนวดที่ร้านนั้นขอย้ายตามมาทำงานด้วย แต่ยังไม่ได้มาสมัครหรือเข้ามาพูดคุยกันก็เกิดประเด็นบุกนำชายหญิงตามมาด่าถึงร้านโดยที่พยายามเจรจาแล้วก็ไม่เป็นผล จนมีเรื่องล่าสุดในการปาหินเกิดขึ้น
ขณะที่ นายกฤษตฌาพนธ์ บอกว่า ตนเชื่อว่าเป็นความไม่พอใจของร้านที่ทำกิจการเหมือนกัน โดยตนได้พยายามไปร้องขอกับผู้ใหญ่แล้วซึ่งได้มีการโทร.ไปคุยกับเขาแล้ว ซึ่งตนเป็นคนนครปฐมเหมือนกันรู้ว่าเขามีอิทธิพล แต่ตนอยากทำมาหากินไม่ได้อยากไปทะเลาะด้วย จึงขอฝากผ่านสื่อให้ตำรวจเข้ามาติดตามคดีเพราะทุกคนในร้านหวาดกลัวกันมากทำงานไม่ได้ ซึ่งเหตุการณ์ทั้ง 2 ครั้งได้มีการแจ้งความไปแล้วที่ สภ.เมืองนครปฐม แต่เรื่องยังเงียบ ทุกคนหวาดกลัวอยู่ในตอนนี้
วันนี้ (26 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการร้านนวดแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม ว่า ถูกชายฉกรรจ์หลายคน หนึ่งในนั้นเป็นชายแต่งกายคล้ายตำรวจร่วมด้วย ได้บุกขู่ถึงหน้าร้านหลังจากเปิดกิจการได้ไม่นานคาดว่าคู่แข่งทางการค้า เพราะเพิ่งลาออกมาตั้งร้านใหม่ไม่นาน โดยได้ไปแจ้งความไว้แล้ว แต่คดีไม่คืบ ล่าสุด ถูกชาย 2 คนสวมหมวกไอ้โม่ง บุกใช้หินปาใส่กระจกร้านกลางดึก โดยวอนสื่อช่วยเป็นกระบอกเสียงให้ช่วยสงบศึกเพราะอีกฝ่ายเป็นคนมีอิทธิพลในพื้นที่ ตอนนี้เจ้าของร้านผวาหนัก หวั่นหากินไม่ได้ในพื้นที่
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบร้านสบายกาย นวดเพื่อสุขภาพ ถนนราชวิถี ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม โดยได้พบกับนายกฤษตฌาพนธ์ บัวประเสริฐ อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดนครปฐม เจ้าของร้านและน.ส.กัญญพัชร สัตบุต อายุ 40 ปีชาวจังหวัดเพชรบุรี ผู้จัดการร้าน สองสามีภรรยาซึ่งได้นำภาพวงจรปิดช่วงเวลาเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณตี 1 เศษของคืนวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้มีชาย 2 คนสวมหมวกคลุมหน้ามิดชิด ได้วิ่งมาที่หน้าร้านและได้ใช้ก่อนหินปาใส่กระจกร้าน 2 ก้อน ก่อนจะวิ่งหลบหนีไป โดยภายในร้านมีพนักงานหญิงที่นอนอยู่ในร้านเกือบถูกก้อนหินที่ปาเข้ามาในร้าน
นอกจากนี้ ยังได้มีการนำคลิปภาพและเสียง มาให้ผู้สื่อข่าวดู โดยปรากฏเป็นกลุ่มชาย 4 คน โดย 1 ในนั้นได้แต่งกายครึ่งท่อนคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจและหญิงอีก 1 คน ได้มาที่หน้าร้านและขอเบอร์เจ้าของร้านโดยได้โทร.ไปพูดคุยด้วยความโมโห และพูดจาหยาบคายหลายนาที ซึ่งเชื่อว่าเป็นหนึ่งในคนดังในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ที่ไม่พอใจหลังจากมีการเปิดร้านดังกล่าวเพียงไม่กี่วัน และเป็นคนที่เปิดธุรกิจเหมือนกันมาก่อเหตุ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 กันยายน 66
น.ส.กัญญพัชร กล่าวว่า เหตุการณ์ที่ปรากฏในคลิปเป็นชาย 2 คนสวมหมวกไอ้โม่งเข้ามาปาหินใส่ร้าน โดยก้อนแรกเกือบจะโดนพนักงานที่นอนในร้าน และอีกก้อนตกอยู่หน้าเคาน์เตอร์ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ส่วนคลิปที่มีชาย 4 คนมาที่หน้าร้าน และ 1 ในนั้นเชื่อว่าเป็นตำรวจมากับหญิงอีก 1 คน เป็นการมาข่มขู่ตนที่กำลังทำงานในร้าน โดยชายคนหนึ่งได้ทราบชื่อคือนายฐา (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าของร้านนวดเก่าที่ตนเองได้เคยทำงานอยู่และเพิ่งมาเป็นผู้จัดการร้านที่เกิดเหตุ โดยมีการข่มขู่เพื่อจะขอเบอร์เจ้าของร้านสบายกาย โดยตนได้บอกว่าไม่อยู่ ตนจึงได้ตัดสินใจให้เบอร์โทร.ไป ซึ่งได้โทร.ไปด่าข่มขู่ต่างๆ นานา และขู่ว่าจะทำทุกวิถีทางให้ร้านนี้ปิดให้ได้ โดยเหตุการณ์วันนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา และได้ไปแจ้งความไว้แต่คดียังไม่คืบหน้า
น.ส.กัญญพัชร บอกอีกว่า หลังจากนั้นชายคนดังกล่าวซึ่งเป็นคนเดิมได้ขับรถมาจอดที่หน้าร้านหลายครั้ง โดยครั้งหนึ่งมีการขับรถมาจอด 2 คัน เป็นรถเก๋ง และรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ซึ่งได้มีการเปิดกระจกมองหน้าลักษณะกดดัน ก่อนจะมีเหตุการณ์บุกมาปาที่กระจกร้าน ซึ่งก่อนหน้าเคยได้มีการไปปรึกษาผู้ใหญ่ที่เคารพให้ช่วยเจรจาโดยทางเขารับปากว่าจะหยุด แต่ยังมีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีก และตอนนี้ที่ร้านเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่สามารถรับลูกค้าได้
โดยประเด็นหลักน่าจะเป็นหลังจากที่ตนได้ลาออกมาแล้วได้มาร่วมกันลงทุนกับสามี เพื่อเปิดร้านนวดซึ่งเป็นธุรกิจเหมือนกับที่ทำงานเดิม น่าจะเป็นชนวนความไม่พอใจของเจ้าของร้านเก่า และไม่กี่วันก่อนหน้าที่จะมีการปาหินใส่ร้านได้มีกระแสว่าจะมีพนักงานนวดที่ร้านนั้นขอย้ายตามมาทำงานด้วย แต่ยังไม่ได้มาสมัครหรือเข้ามาพูดคุยกันก็เกิดประเด็นบุกนำชายหญิงตามมาด่าถึงร้านโดยที่พยายามเจรจาแล้วก็ไม่เป็นผล จนมีเรื่องล่าสุดในการปาหินเกิดขึ้น
ขณะที่ นายกฤษตฌาพนธ์ บอกว่า ตนเชื่อว่าเป็นความไม่พอใจของร้านที่ทำกิจการเหมือนกัน โดยตนได้พยายามไปร้องขอกับผู้ใหญ่แล้วซึ่งได้มีการโทร.ไปคุยกับเขาแล้ว ซึ่งตนเป็นคนนครปฐมเหมือนกันรู้ว่าเขามีอิทธิพล แต่ตนอยากทำมาหากินไม่ได้อยากไปทะเลาะด้วย จึงขอฝากผ่านสื่อให้ตำรวจเข้ามาติดตามคดีเพราะทุกคนในร้านหวาดกลัวกันมากทำงานไม่ได้ ซึ่งเหตุการณ์ทั้ง 2 ครั้งได้มีการแจ้งความไปแล้วที่ สภ.เมืองนครปฐม แต่เรื่องยังเงียบ ทุกคนหวาดกลัวอยู่ในตอนนี้
