นครปฐม - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7 แถลงข่าวจับกุมพี่ชายและเพื่อนไอ้เบ็น มือยิงในบ่อนไก่ หลังข่าวแพร่สะพัดว่ามือยิงเข้ามอบตัวแล้วเมื่อวานนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไล่ล่ากดดันอย่างหนักเพื่อให้มือปืนเข้ามามอบตัว หากขัดขืนพร้อมใช้ยุทธวิธีในการเข้าจับกุม
วันนี้ (11 ต.ค.) ที่ สภ.ดอนตูม จ.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ประสพชัย มัสยวาณิช ผบก.สส.สส.ภ.7 พ.ต.อ.พงษกร แปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ภัทรพล วัจนสุนทร รรท.ผกก.สภ.ดอนตูม ได้แถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ในคดียิงกันในบ่อนไก่พื้นที่อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม จนเป็นคดีดังและได้รับความสนใจจากประชาชน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เปิดเผยว่า สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 2 ราย ประกอบด้วย นายสรศักดิ์ เหล่างาม อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับจังหวัดนครปฐม ที่ 536/2566 และนายดนุเดช ฉายทองคำ อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐมที่ 537/2566 โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดหรือผู้ต้องหากระทำผิดอันมิใช่เหตุลหุโทษหรือไม่ให้ต้องโทษหรือรับโทษน้อยลงทำให้เสียหายทำลายซ่อนเร้นเอาไปเสียหรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด โดยให้พำนักแก่ผู้นั้นโดยซ่อนเร้นหรือช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม พร้อมด้วยของกลางประกอบด้วยรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาวทะเบียน กล 3000 นครปฐม ที่ใช้ในการหลบหนี อาวุธปืน Glock ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวอีกว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม เวลาประมาณ 18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรดอนตูม ได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาท และมียิงกันภายในสนามไก่ชนวรวิทย์ เลขที่ 65 ม.10 ตำบลดอนพุทรา อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม และมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บหนึ่งรายก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลดอนตูม และสืบทราบต่อมาว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายเบ็น เหล่างาม อายุ 29 ปี โดยมีผู้ต้องหาทั้งสองที่ถูกจับกุมได้เป็นผู้พาหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออนุมัติหมายศาลจังหวัดนครปฐมที่ 356/2566 ลงวันที่ 10 ตุลาคม ในการจับกุมนายเบ็น โดยกล่าวหาว่าฆ่าผู้อื่นมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควร และยิงปืนโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชน
ซึ่งหลังจากมีการอนุมัติขอหมายจับกุมจากศาลจังหวัดนครปฐม ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้เดินทางเข้ามามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน เมื่อช่วงหัวค่ำของวานนี้ โดยได้ขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ของกลางมาพร้อมกับทนาย
ทั้งนี้ การที่ทั้งคู่ได้เดินทางเข้ามอบตัวเนื่องจากถูกกดดันอย่างหนักจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยขณะนี้กำลังจะมีการออกหมายเรียกผู้ก่อเหตุตะลุมบอนกันอีก 30 คน ที่ปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิดมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ส่วนอาวุธปืนที่ได้ในวันนี้พร้อมเครื่องกระสุนเป็นชนิดเดียวกับปืนที่ใช้ก่อเหตุ จะมีการตรวจสอบว่าได้มีการก่อเหตุที่ไหนมาบ้างหรือไม่ ส่วนสนามชนไก่ในจังหวัดนครปฐม ทั้ง 3 แห่งได้หารือกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดแล้ว ให้มีการกวดขันเข้มงวดอย่างหนัก รวมถึงในอำเภอทุกแห่งใน 8 จังหวัดเกี่ยวกับสนามชนไก่ว่าห้ามมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น สวนสนามที่เกิดเหตุได้มีการเพิกถอนใบอนุญาตไปเรียบร้อยแล้วรวมถึงสถานบันเทิงที่ฝ่ายปกครองได้มีการอนุมัติใบอนุญาตจะมีการตรวจสอบต่อไป
"ฝากแจ้งไปถึงผู้ต้องหาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่มีการลดละในการไล่ล่าแต่อย่างใดถึงแม้จะมีหมายจับ จะเป็นการเร่งรัดติดตามจับกุมกดดันอย่างหนักแน่นอน ซึ่งยังมีตัวละครเพิ่มเติมทั้งหมดที่ทราบแล้วว่ามีการสับเปลี่ยนรถในการหลบหนีว่าใครพาไปช่วงแรก และช่วงต่อไปมีใครบ้าง วันพรุ่งนี้จะมีการอนุมัติหมายจับอีกซึ่งเชื่อว่าจะมีอีกหลายคนแน่นอน" ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าว
และวันเดียวกันนี้ มารดาของนายเบ็น และพี่ชายได้เดินทางมาที่ สภ.ดอนตูม สถานที่แถลงข่าวและแสดงความไม่พอใจกรณีสื่อมีการนำเสนอว่าบุตรชายของตนเองเป็นผู้มีอิทธิพล และมีพฤติกรรมก้าวร้าวในสังคม ทั้งนี้บอกว่าลูกชายของตนเองทั้ง 3 คนเป็นคนดี ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ แต่เรื่องนอกบ้านไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร ส่วนเรื่องอื่นๆ ตนยังไม่รู้ โดยขอเวลาตั้งตัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการติดต่อบุตรชายให้ได้ก่อน
ส่วนข่าวที่มีข้อมูลว่านายเบ็น ผู้ต้องหาได้เข้ามามอบตัวนั้นยังไม่ใช่ เป็นเพียงพี่ชาย และเพื่อนที่เข้ามามอบตัวเท่านั้น ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไล่ล่า และกดดันติดตามอย่างหนัก พร้อมประกาศใช้ยุทธวิธีหากผู้ต้องหามีการขัดขืน