ประจวบคีรีขันธ์ - ปรากฏเป็นกระแสในโลกโซเซียล เมื่อพระวัดเขาหินเทิน สวมใส่จีวรตัดปะจากเศษผ้าบังสุกุล หลายสี หลากเนื้อผ้า เป็นที่สนใจแก่ผู้คน
ที่วัดเขาหินเทิน หมู่ 9 บ้านมะขามโพรง ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากถนนเพชรเกษมเข้าไป 9 กิโลเมตร อยู่บริเวณเขาหินเทิน มีพระจำพรรษาอยู่เพียงรูปเดียว คือ พระเกษตร ปคุโณ หรือชื่อเดิม นายเกษตร ธงพุทธรักษ์ อายุ 80 ปี บวชเป็นเวลา 51 พรรษา สวมจีวรจากเศษผ้า นำผ้าจากผ้าบังสุกุล หรือผ้าที่ทิ้งแล้วตามถังขยะนำมาตัดปะเย็บเป็นจีวร โดยมีจีวรชุดนี้เพียงชุดเดียว เมื่อผ้าชิ้นส่วนใดชำรุดจะนำเศษผ้ามาตัดปะทดแทนส่วนเดิม
ส่วนเหตุผลที่สวมใส่จีวรเช่นนี้ ตามที่ปรากฏในพระไตรปิฎก พระพุทธเจ้าได้สวมใส่ผ้าบังสุกุล หมายถึงผ้าเปื้อนฝุ่น
หลวงพ่อเกษตร บอกว่า ได้สวมใส่จีวรเช่นนี้เป็นเวลา 42 ปีแล้ว หลังจากที่บวชเป็นพระภิกษุในปี 2515 ขณะที่อายุได้ 28 ปี ที่วัดอ่างทองวรวิหาร จากนั้นเริ่มออกธุดงค์ไปตามที่ต่างๆ เพื่อหาความสงบ กระทั่งจำพรรษาอยู่ที่สำนักสงฆ์เขาคั่นกระได อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เมื่อปี 2524 และเริ่มสวมจีวรตัดปะเช่นนี้ แต่สำนักสงฆ์อยู่เขตชุมชน จึงออกเดินธุดงค์เพื่อหาสถานที่สงบ ห่างไกลจากผู้คน กระทั่งพบที่ป่าธรรมชาติบริเวณเขาหินเทิน ต.เกาะหลัก ในปี 2526 และอยู่ที่นี่เรื่อยมา จัดตั้งเป็นสำนักสงฆ์และเป็นวัดตามลำดับ เป็นระยะเวลา 40 ปี
วัดเขาหินเทินนี้ แรกเริ่มมีพระภิกษุจำพรรษาจำนวนหนึ่ง แต่เนื่องจากความเคร่งครัดในระเบียบและการประพฤติปฏิบัติเรียบง่าย สงบ จึงทำให้พระหลายรูปอยู่ที่นี่ไม่ได้ เพราะขาดสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ โดยที่วัดปราศจากไฟฟ้า อาศัยนอนใต้ก้อนหินใหญ่ หรือต้นไม้ ประกอบกับวัตรปฏิบัติฉันอาหารเพียงมื้อเดียว
หากมีภารกิจ มีการประชุมสงฆ์จะสวมจีวรปกติที่ญาติโยมนำมาถวาย เพื่อสนองงานทุกอย่างของคณะสงฆ์ ที่ผ่านมา ไม่เคยมีพระทักเรื่องการสวมใส่จีวรตัดปะ เชื่อว่าพระทุกรูปเข้าใจวัตรปฏิบัติ สอดคล้องในพระไตรปิฎก และให้เกียรติที่จะไม่ถามไม่พูดถึง
“ทุกวันนี้เริ่มมีชาวบ้านมาที่วัดมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน แต่เมื่อเราไม่มีอะไรให้เขา ไม่มีการเคาะ การลูบ การเป่า การเสก ไม่เหยียบผ้า ไม่มีของขลังของพิเศษ ไม่ดูฤกษ์งามยามดี เหล่านี้เป็นเดรัจฉานวิชา เมื่อไม่มีอะไรให้ ก็ไม่มา ถึงมาแล้วคุยกันพอรู้เรื่องแล้วก็ไป ได้สนทนาธรรมบ้าง รักษาความสงบ วิเวก คือ เราไม่สร้างอะไรมากนัก พออยู่ได้พอ” หลวงพ่อเกษตรกล่าว
ทั้งนี้ หลวงพ่อเกษตร ฝากบอกแก่พุทธศาสนิกชนว่า ไม่ต้องนำธูปเทียนมาถวาย เนื่องจากมีเขม่า มีขี้เถ้ารก และอาหารสำเร็จรูป เครื่องดื่มสำเร็จรูป เช่น ปลากระป๋อง ผลไม้กระป๋อง บะหมี่สำเร็จรูป กินนานๆ จะเป็นอันตรายกับไต เสียสุขภาพ เครื่องดื่มชูกำลัง กาแฟสำเร็จรูปผสมเสร็จ ขิงผง มะตูมผง รังนก ประกอบด้วยสารเคมี อันตรายทั้งนั้น เป็นสิ่งไร้สาระ ขอย้ำว่าไม่ต้องนำมาถวาย
ขณะที่ วันนี้พบว่า มีพุทธศาสนิกชนเดินทางผ่านก่อนกลับกรุงเทพฯ ได้เข้ามาที่วัด เพื่อขอคำแนะนำเรื่องการนั่งสมาธิ และได้สนทนาธรรมกับหลวงพ่อเป็นเวลาสั้นๆ เพียง 5 นาที ก่อนจะเดินทางต่อไป
