ออกหมายจับขบวนการหมูเถื่อน จ่อยึดทรัพย์คืนแผ่นดิน

ออก “หมายจับ” ขบวนการหมูเถื่อน...จ่อยึดทรัพย์คืนแผ่นดิน

ปัญหาหมูเถื่อนยืดเยื้อยาวนานมากว่าปี แม้จะมีความคืบหน้าขึ้นเป็นระยะ แต่มาเฟียหมูเถื่อนหาได้เกรงกลัวกฎหมายไม่ เหิมเกริมหนักจนถึงขั้นใช้อาวุธสังหารเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ดับขณะปฏิบัติหน้าที่ใน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ร้อนถึงเจ้ากระทรวงเกษตรฯ ที่เดือดจัด ประกาศก้อง “ลูกน้องต้องไม่ตายฟรี” จะทำสงครามกับมาเฟียหมูเถื่อนไม่เห็นแก่หน้าอินทร์หน้าพรหมทั้งสิ้น ตามด้วยคำสั่งปูพรมตรวจห้องเย็นทั่วประเทศ

ด้านนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ซึ่งรับหน้าที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) สะเทือนใจมากกับเหตุการณ์นี้ จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าร่วมในกระบวนการตรวจสอบห้องเย็นทุกครั้ง พร้อมดูแลกระบวนการดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดตามกฎหมายด้วย

กมปศุสัตว์ ซึ่งกำกับดูแลโดย รมช.ไชยา พรหมา และอธิบดีกรมปศุสัตว์ สมชวน รัตนมังคลานนท์ กางแผนที่ประเทศไทย เข้าตรวจสอบห้องเย็นทั่วประเทศทันที ในช่วงระยะเวลาหลังการปูพรมเพียงสัปดาห์เดียวพบหมูเถื่อนและเนื้อสัตว์เถื่อนจำนวนมหาศาล เช่น ในห้องเย็น จ.ราชบุรี พบถึง 86,200 กิโลกรัม เป็นหมูเถื่อนถึง 46,000 กก. ที่เหลือเป็นเนื้อเถื่อนชนิดอื่นๆ หรือแม้แต่ใน จ.สมุทรสาคร ที่พบเนื้อสัตว์เถื่อนมากถึง 639,000 กก. ปะปนกันทั้งเนื้อหมู เนื้อควาย และชิ้นส่วนไก่

สิ่งนี้สะท้อนว่า ก่อนการจับกุมตู้คอนเทนเนอร์ตกค้างล็อตใหญ่ 161 ตู้ได้ที่แหลมฉบังนั้น มีการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนและเนื้อสัตว์เถื่อนเข้ามาซุกซ่อนอยู่ในห้องเย็นต่างๆ ของไทยแล้วมากมายหลายหมื่นตัน ซึ่งหมูเถื่อนเหล่านี้ถูกทยอยขายออกสู่ตลาด กดดันราคาขายของหมูไทยให้ต่ำกว่าทุนมาจนถึงทุกวันนี้ นับเป็นการฆาตกรรมเกษตรกรคนเลี้ยงหมูของไทยอย่างเลือดเย็นเป็นเวลายาวนาน

ต้องยอมรับว่าคดี 161 ตู้คอนเทนเนอร์ตกค้าง ในมือกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เป็นจุดสตาร์ทให้เจ้าหน้าที่สามารถสืบสวนสอบสวนไล่ไปจนถึงต้นตอผู้นำเข้า รวมไปถึงการเข้ามาของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ที่จะติดตามคดีฟอกเงิน และพร้อมจะยึดทรัพย์จากผู้กระทำผิด ซึ่งสูบเลือดสูบเนื้อคนในชาติเอาประโยชน์เข้ากระเป๋าไปนับพันล้านบาทให้คืนกลับสู่แผ่นดิน ตลอดจนจะสามารถเอาผิดข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐที่รู้เห็นเป็นใจ มีส่วนร่วมในขบวนการหมูเถื่อนนี้ด้วย

ล่าสุด มีรายชื่อบุคคลผู้นำเข้าเนื้อสุกรแช่แข็งที่ถูกออก “หมายจับ” แล้ว 6 ราย ซึ่งเป็น กรรมการนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง เช่น ห้างหุ้นส่วนจำกัด กันตาไทย โฟรเซ่นฟิช บริษัท มายเฮ้าส์ เทรดดิ้ง จำกัด บริษัท อาร์.ที.เอ็น. โอเวอร์ซี จำกัด บริษัท เดอะคิวบ์ โลจิสติกส์ จำกัด บริษัท กูดวอเตอร์ จำกัด

ทั้งนี้ รายชื่อ 18 บริษัท ซึ่งเป็นผู้นำเข้าหมูเถื่อน 161 ตู้ตกค้าง ณ แหลมฉบัง นั้นพบว่าเป็นการกระทำความผิดในการนำของผ่านหรือกำลังผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร โดยหลีกเลี่ยงข้อจำกัดเกี่ยวกับของนั้น ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 และความผิดฐานนำเข้า ส่งออกหรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่ง DSI และ ปปง.ยังคงเดินหน้าสืบสวนสอบสวนเพื่อไปให้ถึงผู้มีอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังขบวนการหมูเถื่อน และนำตัวมาดำเนินคดีให้ได้

คนเลี้ยงหมูรอวันเห็นโฉมหน้ามาเฟียหมูเถื่อน รอวันได้เห็นคนใจร้ายที่ทำลายเกษตรกรไทย และได้เห็นการยึดทรัพย์คืนแผ่นดิน อันเป็นการธำรงไว้ซึ่งกฎหมาย ความถูกต้อง และความยุติธรรม รวมไปถึงการจะได้เห็น “ผู้มีอิทธิพล” เบื้องหลังคนร้ายยิงเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ ให้เหล่ามิจฉาชีพมันรู้ซึ้งว่า “ลูกน้องท่านธรรมนัส ต้องไม่ตายฟรี!!” นั้นเป็นอย่างไร

โดย สมคิด เรืองณรงค์