“ไชยา” ประกาศสงครามกับขนวนการลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์ผิดกฎหมาย ลั่น ก.เกษตรฯ ไม่ปล่อยไว้ เดินหน้าปราบจริงจัง จี้ กรมศุลกากร-ดีเอสไอ พบ จนท.รู้เห็น พร้อมตั้งข้อสังเกตเหตุยิง จนท.ปศุสัตว์ที่เพชรบูรณ์ ทั้งที่ตำรวจอยู่ในเหตุการณ์ ชี้ มีขบวนการโยงผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น อดีตนักการเมืองทั่วประเทศ
วันที่ 12 ต.ค. 66 นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และนายสัตวแพทย์ ชัย วัชรวงษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเกิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ จ.เพชรบูรณ์เข้าตรวจสอบจับเนื้อหมูเถื่อนอยู่ระหว่างการอายัดได้ถูกยิงเสียชีวิตและบาดเจ็บขณะปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่อุกอาจ
นายไชยา กล่าวว่า รัฐบาลโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายกำชับให้เร่งตรวจสอบและกวาดล้างการลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์ผิดกฎหมาย โดยพบมีการลักลอบนำเข้าผ่านทางชายแดน ทั้งนี้ เหตุที่เกิดขึ้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ทราบว่า ก่อนเข้าปฎิบัติหน้าที่ของปศุสัตว์ได้มีการแจ้งประสานงานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เข้ามาร่วมตรวจค้น แต่ เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่มีการปฏิเสธ เนื่องจาก ขณะที่เกิดเหตุมีการเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาเจรจาต่อรองเป็นการอาศัยอิทธิพลท้องถิ่น ผู้มีอำนาจในพื้นที่ซึ่งไม่ใช่เรื่องปกติและไม่ใช่เป็นผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นธรรมดา แต่เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ
นายไชยา ระบุว่า จากนี้เป็นต้นไปจะมีการสแกนเอ็กซเรย์ห้องเย็นทั่วประเทศ โดยประสานกองกำลังด้านความมั่นคงผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปแล้ว ซึ่งจากเหตุการณ์การยิงเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ที่จังหวัดเพชรบูรณ์นั้น พบว่า ขณะเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นาย อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ซึ่งเข้าไปโดยไม่ได้เป็นทางการ อาจจะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวกับเจ้าของห้องเย็นหรือไม่ จึงขอให้สื่อมวลชนเข้าไปช่วยตรวจสอบในเรื่องนี้ เพราะมองว่าขบวนการดังกล่าวไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แต่เป็นขบวนการทำลายเศรษฐกิจของประเทศ เป็นการทำลายกลไกตลาดและเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์รายย่อย มีการลักลอบนำเนื้อสัตว์เข้ามาทำลายวงจรการตลาดในประเทศ ผู้ที่ได้รับผลกระทบคือเกษตรกรรายย่อย ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งได้รับรายงานห้องเย็นดังกล่าวยังไม่ได้รับใบอนุญาต อยู่ระหว่างการขอใบอนุญาต
ขณะที่ วันนี้เจ้าหน้าที่ของกรมปศุสัตว์เตรียมเปิดตู้คอนเทนเนอร์ที่ได้อายัดไว้ที่แหลมฉบังเพื่อให้การตรวจสอบผิดปกติ ซึ่งไม่ได้ทำโดยพลการ ซึ่งได้ขอความร่วมมือจาก ฝ่ายความมั่นคงจากกรมศุลกากรและดีเอสไอ รวมถึงสมาคมผู้เลี้ยงสุกรรายย่อย แต่เมื่อเช้านี้ พบว่ามีการปฏิเสธการเข้าร่วมในการเปิดตู้ของกลางที่จับกุมไว้
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ ยืนยันจะเดินหน้าแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง พร้อมประกาศสงครามกับสินค้าเกษตรที่ผิดกฎหมายทุกชนิด เนื่องจากเป็นภัยต่อความมั่นคง ทั้งทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาลและกระทบต่อสุขอนามัยของประชาชน
“โดยขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของ นายศราวุธ ประจวง หัวหน้าด่านกักกันสัตว์เพชรบูรณ์ ที่ถูกยิงเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ถือว่าท่านเป็นข้าราชการที่ดี ในการปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนและเป็นวีรบุรุษของประเทศ ต้องขอแสดงความเสียใจความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย”
นายไชยา ยังกล่าวอีกว่า กรมปศุสัตว์กระทรวงเกษตรมีอำนาจ แค่ตรวจสอบว่าเป็นสินค้าผิดกฎหมายด้านโรคระบาดเท่านั้น แต่ไม่มีอำนาจจับกุม ไม่มีอำนาจดำเนินคดีตามกฏหมาย ซึ่งจำเป็นต้องขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ หากไม่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงก็ถือเป็นเรื่องยากที่จะสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์ผิดกฎหมายได้
