มหาสารคาม - แม่แรงงานในอิสราเอลยังนอนผวา ลูกชายทำงานอยู่ห่างฉนวนกาซาแค่ 3 กม. วอนรัฐเร่งช่วยลูกชายกลับไทย ด้านลูกชายวิดีโอคอลบอกปลอดภัยดี เพราะแคมป์ทำงานอยู่ทางทหารอิสราเอลได้มาเข้าช่วยเหลือไว้ได้ทัน มีคนไทยอยู่ประมาณ 50 คน บาดเจ็บโดนยิง 1 คน ทุกคนอยู่กันอย่างเสียขวัญ รอคิวบินกลับไทย
ที่บ้านเลขที่ 108 บ้านมะโม หมู่ 9 ต.หนองซอน อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยเหล่ากาชาดจังหวัดมหาสารคาม และคณะได้เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวแรงงานที่ทำงานในประเทศอิสราเอล โดยได้นำเอาถุงยังชีพและน้ำดื่มไปมอบให้ที่บ้าน นางปราณี เสริมศักดิ์ อายุ 56 ปี ซึ่งลูกชายคือ นายจตุพร หีบแก้ว ไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล เป็นแรงงานภาคการเกษตรที่อยู่ในพื้นที่สีแดง ห่างจากฉนวนกาซาเพียงแค่ 3 กิโลเมตร ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่สงบในประเทศอิสราเอล จึงได้มาให้กำลังใจครอบครัวและบรรเทาทุกข์เบื้องต้น พร้อมทั้งสอบถามเพื่อหาทางช่วยเหลือ
ซึ่งระหว่างที่ผู้ว่าฯ ลงพื้นที่ นายจตุพร หีบแก้ว ก็ได้มีการติดต่อวิดีโอคอลมาพูดคุย โดยเล่าว่า วันแรกที่รบกันมีผู้ก่อการร้ายเข้ามากราดยิง แต่ถือว่าโชคดีที่แคมป์ที่ตนทำงานอยู่ทางทหารอิสราเอลได้มาเข้าช่วยเหลือไว้ได้ทัน มีคนไทยอยู่ประมาณ 50 คน บาดเจ็บโดนยิง 1 คน แต่ปลอดภัยแล้ว ซึ่งจุดที่อยู่ห่างจากฉนวนกาซาเพียง 3 กม. อยู่ที่เนติวูด เป็นพื้นที่ใต้ตอนบนติดกาซา ทุกปีก็ยิงกันทุกปี แต่ปีนี้หนักเพราะมาทางพื้นดิน หากมาทางอากาศก็มีไอออนโดมสกัดไว้ได้ แต่พอมาภาคพื้นดินก็เลยมีคนตายมาก
ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจไปทำงานที่อิสราเอลก็เพราะค่าแรงดี อยากสร้างเนื้อสร้างตัวก็เลยไป ตอนนี้ติดต่อทางสถานทูตไปแล้ว แต่ก็ยังเข้ามาไม่ได้เพราะเป็นพื้นที่สีแดง ได้แต่รอคิว ไม่รู้ว่าจะได้กลับวันไหน ทุกคนที่นี่เสียขวัญกำลังใจกันหมด
ด้านนางปราณี เสริมศักดิ์ มารดาของนายจตุพร กล่าวว่า ที่ได้ยินข่าวก็ตกใจมาก กินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะ 3 วันแรกติดต่อลูกชายไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร โทรทัศน์ก็ไม่กล้าดู เพราะดูแล้วก็คิดมาก ร้องไห้คิดถึงลูกชาย ผ่านไป 3 วัน ลูกชายถึงจะได้โทร.กลับมาหาก็ดีใจมาก ระหว่างรอแม่ก็ใจจะขาด จนต้องไปบนที่ศาลหลักเมืองขอให้ลูกชายปลอดภัยกลับมาประเทศไทยแบบตัวเป็นๆ ลูกชายไปทำงานได้ 1 ปี 3 เดือน ตอนลูกชายโทร.กลับมาก็บอกแค่ว่าให้แม่ทำใจ ถ้าเห็นลูกกลับไปก็คือเห็น ตอนนี้ยังนอนผวาทุกคืนเพราะเป็นห่วงลูกชาย มีลูกชายแค่คนเดียว
ก็อยากจะวิงวอนให้ทางรัฐบาลได้ช่วยเหลือให้หาทางพาลูกชายกลับมาบ้านอย่างปลอดภัย และก็คงจะไม่ให้กลับไปทำงานอีกแล้ว ถ้าจะไปก็ไปที่อื่น
ด้าน นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ทางจังหวัดได้มาเยี่ยมเยือนให้กำลังใจแก่ครอบครัวแรงงานที่ติดอยู่ที่ประเทศอิสราเอล ก็หาทางช่วยเหลือกันทุกทาง ในครั้งนี้ได้มาตรวจสอบข้อมูลว่าได้มีการติดต่อกับทางบ้าน หรือขาดการติดต่อ และแต่ละรายมีความเดือดร้อนอะไรบ้าง ทางครอบครัวต้องการความช่วยเหลือด้านใด จากการพูดคุยตอนนี้ทางแรงงานก็อยากจะกลับบ้าน แต่สถานการณ์ตอนนี้ก็ยังไม่สามารถไปรับได้เพราะน่านฟ้าเปิดปิดเป็นเวลา
ในพื้นที่ของมหาสารคามเรามี 459 คน แรงงานชาย 450 คน แรงงานหญิง 9 คน แต่ดีตรงมหาสารคามไม่มีแรงงานที่ได้รับบาดเจ็บและถูกจับไปเป็นตัวประกัน ส่วนเรื่องการผิดเงื่อนไขสัญญาก็จะได้มีการพูดคุยกับทางแรงงานกันไว้แล้ว ไม่ต้องห่วงตอนนี้ต้องรอสถานการณ์ในการเคลื่อนย้ายเพราะมีแรงงานที่ขอกลับประเทศไทยจำนวนมาก