เมื่อวันที่ 14 ต.ค.นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางไปร่วมกิจกรรมบำเพ็ญกุศลบรรพบุรุษที่วัดเทพนิมิตร บ้านบัวบาน ต.กู่ทอง อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม ภายในงานหลังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้เข้าร่วมกิจกรรมงานบุญกับชาวบ้านที่เดินทางมาร่วมงานแล้ว ช่วงค่ำนายสุทิน คลังแสง ได้ขึ้นกล่าวเปิดงานและทักทายพี่น้องประชาชนที่เดินทางมาร่วมงาน ช่วงหนึ่งนายสุทินได้กล่าวถึงเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากการสู้รบระหว่างอิสราเอล และกลุ่มฮามาส จนทำให้เกิดความสูญเสียของพี่น้องคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศอิสราเอล โดยล่าสุดมียอดคนไทยเสียชีวิต รวมแล้ว 24 ราย บาดเจ็บ 16 ราย ขณะที่ยังคงมีตัวประกันในเหตุการณ์การสู้รบอีก 16 ราย โดยส่วนหนึ่งของพี่น้องที่เสียชีวิตมีคน จ.มหาสารคาม จ.อุบลราชธานี จ.อุดรธานี และ จ.หนองบัวลำภู รวมอยู่ด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจึงชวนให้คนมหาสารคามที่มาร่วมงานทั้งหมดได้ร่วมส่งกำลังใจให้กับผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ด้วยการยืนไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุสงครามในครั้งนี้
“มีคนมหาสารคามไปตายหลายคน คนอุบลก็ตาย อุดรก็ตาย คนหนองบัวลำภูก็ตาย ผมรัฐมนตรีกลาโหมได้สั่งเครื่องบินไปช่วยเหลือคนไทย แต่ไม่เพียงพอ จึงได้สั่งกองทัพเรือไปช่วยอพยพอีกทางหนึ่ง อยากให้ทุกคนยืนร่วมไว้อาลัยให้กับคนไทยในอิสราเอล คนทั่วโลก ร่วมส่งกระแสจิตและส่งบุญกุศลให้กับผู้เสียชีวิตที่อิสราเอล ส่งกำลังใจให้คนที่ลำบาก ทหารที่ทำหน้าที่ สงบนิ่ง 1 นาที “ นายสุทิน กล่าว
นายสุทิน ยังได้แสดงความเป็นห่วงต่อคนไทยที่ยังตกค้างอยู่ที่ อิสราเอล ซึ่งในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่และดีที่สุดเพื่อเร่งอพยพคนไทยกลับประเทศให้เร็วที่สุด เบื้องต้นได้สั่งการกองทัพอากาศ จัดเที่ยวบินให้เพียงพอต่อจำนวนคนไทยที่ต้องการกลับประเทศไทย ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลา เนื่องจากมียอดคนไทยประสงค์จะเดินทางกลับมากกว่า 7,000 คน จึงได้สั่งกองทัพเรือเข้าช่วยในการอพยพคนไทยอีกทางหนึ่งเพื่อความรวดเร็วต่อสถานการณ์ความรุนแรงที่ยังคงเกิดเหตุปะทะอย่างต่อเนื่อง นายสุทิน ยืนยันว่า เหตุการณ์นี้ถือเป็นภาระหน้าที่สำคัญของรัฐบาลที่ต้องเร่งดำเนินการช่วยเหลือคนไทยให้เดินทางกลับประเทศอย่างปลอดภัยและเร็วที่สุด