สุรินทร์ - แรงงานเมืองช้างถูกยิงบาดเจ็บเดินทางกลับถึงบ้านเกิดสุรินทร์ พ่อแม่ญาติพี่น้องแห่รับขวัญ เจ้าตัวเปิดใจถูกกลุ่มฮามาสบุกแคมป์คนงานยิงถล่มถึงห้องพักกระสุนเจาะไหล่ขวาบาดเจ็บ เพื่อนคนไทยหนีหายไป 1 คน เผยรอดชีวิตมาได้เพราะรถถังทหารอิสราเอลออกมาช่วยได้ทันปะทะคนร้ายดับ 4 ศพ ลั่นไม่กลับไปอีกแล้ว พร้อมโชว์พระดังห้อยคอ
วันนี้ (13 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 11 หมู่ 22 ต.พรมเทพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ นายกำจร สุกใส พร้อมด้วยนางจำรัส สุกใส พ่อกับแม่ พร้อมด้วยบรรดาญาติพี่น้องทั้งปู่ย่าตายาย พี่ป้าน้าอา กว่า 20 คน ได้ร่วมกับประกอบพิธีเรียกขวัญให้ นายจิรายุ สุกใส อายุ 24 ปี แรงงานชาว จ.สุรินทร์ เดินทางไปทำงานฟาร์มไก่ บริเวณทิศใต้ฉนวนกาซา ประเทศอิสราเอล ถูกยิงได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์การสู้รบในประเทศอิสราเอลกับการปฏิบัติการโจมตีของกลุ่มฮามาส เมื่อเช้าวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา และนายจ้างนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลอาการปลอดภัย ก่อนได้รับการช่วยเหลือจากกระทรวงแรงงานของไทย ติดตามประสานงานนำตัวเดินทางกลับถึงประเทศไทยเมื่อวานนี้ (12 ต.ค.)
โดยพิธีเรียกขวัญ ได้นำเอารูปคุณตามาตั้งบูชา พร้อมเครื่องอาหารคาวหวาน น้ำหวาน เครื่องดื่ม ด้ายสายสิญจน์สีเหลือง มาประกอบพิธีเรียกขวัญผูกแขวนให้นายจิรายุ เพื่อให้มีขวัญกำลังใจในการดำเนินชีวิตเพราะเป็นวัยที่กำลังเติบโต สร้างเนื้อสร้างตัว สร้างครอบครัวที่เข้มแข็ง ขอให้หายจากอาการขวัญผวา กลับมาสร้างอนาคตที่ดีต่อไป จากนั้นผู้ที่มาร่วมงานได้ร่วมกันรับประทานอาหารเป็นขวัญกำลังใจให้นายจิรายุ
นายจิรายุ สุกใส แรงงานไทยในอิสราเอลที่รอดชีวิตกลับมาได้ เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ดีใจมากที่เจ้าหน้าที่ของไทยประสานงานให้ได้เดินทางกลับบ้านพร้อมคนงานคนอื่นๆ อีกหลายคน ตนถูกยิงเมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 ต.ค. 2566 เวลาประมาณ 7 โมงเช้า พวกตนกับคนงานไทยและคนต่างประเทศ อีก 5 คน พากันอยู่ในห้องพักแคมป์คนงาน ได้ยินเสียงปืนดังเข้ามาในบริเวณที่พัก เสียงปืนดังมาก ในช่วงแรกๆ พวกตนไม่รู้ว่าใครเป็นคนยิง อีกไม่นานก็มีรถถังทหารอิสราเอลวิ่งออกมาและยิงปะทะกับกลุ่มคนร้ายที่เข้ามายิงพวกตน ซึ่งพวกตนพากันอยู่ในห้องแบบให้เงียบที่สุด และกระทั่งเสียงปืนเงียบลง ตนเห็นคนตายอยู่นอกบริเวณที่พัก 4 ศพ ซึ่งเป็นกลุ่มที่เข้ามายิงพวกตนในช่วงเช้า
ส่วนตนเองถูกยิงเข้าที่ไหล่ขวาได้รับบาดเจ็บ พอช่วงสายของวันที่ 8 ต.ค. 66 ก็ประสานกับนายจ้างนำตัวไปรักษาทำบาดแผลกับแพทย์ที่โรงพยาบาล และประสานกับญาติเพื่อขอเดินทางกลับประเทศไทย ส่วนเพื่อนคนไทยที่หลบในที่พักด้วยกันหายตัวไปตั้งแต่วันปะทะวันแรก 1 คน ทิ้งแต่โทรศัพท์ไว้ ไม่ทราบว่าหลบหนีไปไหน
นายจิรายุกล่าวอีกว่า ในช่วงที่ตนถูกยิงและหลบในที่พัก ก็ได้แต่คิดถึงพ่อแม่ให้ช่วยชีวิตให้ปลอดภัย เพราะถูกยิงเข้าที่ด้านหลังไหล่ขวา ส่วนพระเครื่องที่ห้อยคอเป็นพระที่ตนเคารพนับถือมากได้มาจากอำเภอท่าตูม คือ หลวงตาพงษ์ พรหมสโร วัดโพธิ์ศรีสว่าง อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ จึงนำขึ้นมาพนมมือไหว้ ขอให้ท่านคุ้มครองชีวิต ช่วยให้รอดปลอดภัย จนกระทั่งปลอดภัยกลับถึงบ้านในวันนี้ ส่วนจะกลับไปทำงานที่อิสราเอลอีกหรือไม่นั้นตนตอบได้เลยว่า “ไม่ไปอีกแล้ว หางานทำที่ไทยดีกว่า”
ทางด้าน นายกำจร สุกใส อายุ 48 ปี ผู้เป็นพ่อ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ดีใจมากที่ลูกปลอดภัย แม้จะถูกยิงเข้าที่ไหล่ขวา แต่ก็ไม่สาหัสมาก ได้รับการรักษาในเบื้องต้นแล้ว อาการปลอดภัย หลังจากประกอบพิธีเรียกขวัญแล้วจะพาไปหาหมอเพื่อการรักษาให้ดีขึ้น ตนขอบคุณหน่วยงานราชการทุกหน่วยที่ช่วยพาลูกกลับมาถึงบ้านจนปลอดภัย
ขณะที่ผู้เป็นแม่ นางจำรัส สุกใส อายุ 42 ปี กล่าวว่า ดีใจมากที่ลูกเดินทางกลับถึงบ้านแล้ว ได้ทำพิธีเรียกขวัญให้จะได้มีกำลังใจ มีญาติมาร่วมงานหลายคนเป็นกำลังใจที่ดีมาก พร้อมขอขอบคุณหน่วยงานราชการต่างๆ ที่ให้ความช่วยเหลือให้ลูกได้เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย แม้จะได้รับบาดเจ็บบ้างเล็กน้อย แต่ไม่อันตรายถึงชีวิต ต้องขอบคุณมากจริงๆ