อุดรธานี- “ไกรสร บัวผาย” แรงงานไทยคนแรกชาวอุดรธานีที่กลับจากอิสราเอล เปิดใจหลังกลับถึงบ้าน ช่วงสู้รบ ต้องหลบในบังเกอร์ร่วมกับชาวอิสราเอล เผยเหตุสู้รบรู้สึกเครียด หวาดระแวง เป็นเหตุให้คำร้องขอเดินทางกลับ ขณะที่จัดหางานจ.อุดรธานี จะรวบรวมหลักฐานติดตามสิทธิประโยชน์ที่แรงงานจะได้รับต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุสู้รบระหว่างอิสราเอลและกองกำลังกลุ่มฮามาส มีผู้ได้รับการเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก และเมื่อวานนี้ (12 ต.ค.) แรงงานไทยชุดแรกจากอิสราเอล ที่ประสานขอความช่วยเหลือผ่านทางการไทย เดินทางกลับมาแล้วตามจำนวนที่แจ้งไว้ 15 คน และ 1 ใน 15 คน เป็นชาวอุดรธานี คือนายไกรสร บัวผาย ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 154 หมู่ 2 ตำบลจอมศรี อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี
สำนักงานแรงงานจังหวัดอุดรธานี ได้จัดรถตู้และเจ้าหน้าที่ พานางสาวปิยะพร สังข์ทอง ภรรยานายไกรสร เดินทางไป กับบุตรชาย อายุ 7 ปี เดินทางไปรับที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ และกลับถึงอุดรธานีแล้ว เมื่อเวลา 01.44 น. (13 ต.ค.66)
บรรยากาศที่บ้านของนายไกรสรฯช่วงเช้าวันที่ 13 ตุลาคม 2566 มีญาติพี่น้องและเพื่อนบ้าน ช่วยกันทำอาหารต้อนรับ ทั้งนี้เวลาประมาณ 11.00 น. นายอำเภอเพ็ญและหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจะเดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจ ให้การช่วยเหลือและแจ้งสิทธิประโยชน์แรงงานไทยเดินทางกลับประเทศ เนื่องจากภาวะสงคราม ภัยธรรมชาติ หรือโรคระบาด เป็นเบื้องต้น
นายไกรสร บัวผาย เล่าว่า ดีใจที่ได้กลับประเทศไทย เหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคมช่วงเวลา 18.30 น.เกิดเหตุการณ์ยิงกันที่คิบบุตซ์ และแคมป์คนงานหลายจุดมีทั้งระเบิดและการบุกเข้ามากราดยิง จากนั้นมีประกาศแจ้งเตือนของทางรัฐบาลอิสราเอลให้เข้าที่หลบภัย ช่วงกลางคืนวันเดียวกันเพื่อนที่อยู่อีกจุดโทรมาบอกว่ามีคนถูกฆ่าตายจำนวนมาก จากนั้นตนก็เข้าไปหลบที่บังเกอร์ และมีทหารอิสราเอลได้มาพาแรงงานทั้งหมดออกไปหลบที่ศูนย์พักพิงรวมกับคนอิสราเอล แล้วทหารอิสราเอลก็ได้ปูพรมค้นหาผู้ก่อการร้ายกลุ่มฮามาสและทำการสังหาร และพาแรงงานคนไทยกลับมาที่เดิม
ตนไปทำงานที่อิสราเอลได้ 5 ปีแล้ว อีก 3 เดือนจะครบหมดสัญญาและตนก็ขอเดินทางกลับ ชีวิตอยู่ที่นั่นตอนเกิดเหตุก็ลำบากมาก ทำอาหารเสร็จก็ต้องรีบมาหลบที่บังเกอร์ เพราะตอนอยู่ระหว่างสู้รบตนมีวิธีป้องกันตัว โดยหากเสียงไซเรนดังขึ้น ทุกคนต้องรีบวิ่งเข้าหลบที่บังเกอร์ทุกคน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่วนตัวรู้สึกเสียใจ จุกอก มีความหวาดระแวง เป็นเหตุให้ตนยื่นคำร้องขอเดินทางกลับ
ด้านจัดหางานจังหวัดอุดรธานี ได้แจ้งสิทธิประโยนช์กับนายไกรสรว่า นายไกรสรทำงานที่ประเทศอิสราเอลถูกต้องตามกฎหมาย ฉะนั้นจะมีสิทธิประโยชน์ตามกองทุนช่วยเหลือคนหางานต่างประเทศที่ไปทำงานต่างประเทศ ในกรณีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บพิการหรือเสียชีวิต โดยได้รับเงินช่วยเหลือจำนวน 15,000 บาท เนื่องจากภาวะภัยสงคราม จากนี้ต่อไปกรณีค่าจ้างค้างจ่ายของนายจ้างที่ประเทศอิสราเอลหรือสิทธิประโยชน์อื่นๆที่ประเทศอิสราเอล ต้องรอให้สถานการณ์การสู้รบจบก่อน
ทางจัดหางานจังหวัดอุดรธานี จะเข้ามารวบรวมหลักฐานส่งให้สำนักงานแรงงานไทยที่ประเทศอิสราเอล ให้ช่วยติดตามสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับต่อไป โอกาสเดียวกันนี้นายไกรสร ได้กล่าวขอบคุณ ส่วนราชการที่เดินทางมาเยี่ยมและช่วยเหลือพากลับประเทศไทยได้ปลอดภัย