ศูนย์ข่าวขอนแก่น - จัดหางานขอนแก่นแจงสิทธิประโยชน์ญาติแรงงานผู้เสียชีวิตจะได้รับนอกเหนือจากเงินกองทุนช่วยเหลือผู้หางานฯ 40,000 บาทและเงินประกันตนตาม ม.33 ของผู้เสียชีวิต ยังจะได้รับค่าตอบแทนจาก National
insurance Institute โดยเมียจะได้รับเงินช่วยเหลือทุกเดือนราว 33,000 บาท จนกว่าจะแต่งงานใหม่ ส่วนบุตรจะได้ 6,000-12,000 บาท/เดือน จนมีอายุครบ 18 ปี
ขอนแก่นเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีคนไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลจำนวนมากในอันดับต้นๆ จำนวนทั้งสิ้น 1,165 ราย แยกเป็นชาย 1,133 ราย หญิง 32 ราย โดย อ.หนองสองห้องไปมากที่สุด 188 ราย และจากเหตุการณ์โจมตีตอนใต้ของอิสราเอลจากกองกำลังฮามาส ส่งผลให้แรงงานไทยเสียชีวิต บาดเจ็บและสูญหายมากกว่าแรงงานนำเข้าจากทุกชาติ และเบื้องต้นพบว่ามีแรงงานชาวขอนแก่นได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ถูกจับเป็นตัวประกัน 1 ราย ช่วยชีวิตออกมาได้ 1 ราย และติดต่อไม่ได้ คาดว่าจะเสียชีวิต 3 ราย ประกอบด้วยสองพี่น้อง นายพงษ์เทพ กุสะรัมย์ นายอภิชาต กุสะรัมย์ และนายพิชิต นาจันทร์
วันนี้ (12 ต.ค.) นางอรวรรณ หินตะ แรงงาน จ.ขอนแก่น เปิดเผยถึงสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับกรณีคนงานที่คาดว่าเสียชีวิตในอิสราเอล โดยผ่านการยืนยันจากสถานทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล นายอภิชาติ กุสะรัมย์ จะได้รับเงินกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ ของกรมการจัดหางานกรณีเสียชีวิต 40,000 บาท กรณีแรงงานไทยในอิสราเอลเสียชีวิตจากการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับฝ่ายปาเลสไตน์ จะได้รับค่าตอบแทนจาก National insurance Institute โดย ภรรยาและบุตรของผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินช่วยเหลือทุกเดือนจนกว่าภรรยาจะแต่งงานใหม่ หรือบุตรมีอายุครบ 18 ปี
โดยภรรยาได้รับประมาณ 60% ของ 6,000 เชคเกล ทุกเดือน หรือประมาณ 33,000 บาท ส่วนบุตรได้รับประมาณ 10-20% ของ 6,000 เชคเกล หรือประมาณ 6,000-12,000 บาทต่อเดือน
จากการตรวจสอบการส่งเงินในระบบประกันสังคมของนายอภิชาต เคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 มีสิทธิ์ได้รับเงินบำเหน็จชราภาพจากกองทุนประกันสังคม 26,079 บาท ยังไม่รวมดอกผล และเงินปิซูอิม (Sevice Pay) เป็นเงินชดเชยจากนายจ้างกรณีถูกเลิกจ้างหรือกรณีลูกจ้างเสียชีวิต ให้แก่คู่สมรสตามกฎหมายหรือเป็นที่รับรู้ โดยนายจ้างจะต้องจ่ายเท่ากับอัตราค่าจ้างปกติ 1 เดือนต่อปี
สำหรับนายพงษ์เทพ จะได้เงินกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ ของกรมการจัดหางานกรณีเสียชีวิต 40,000 บาท และจากการตรวจสอบการส่งเงินในระบบประกันสังคมของนายพงษ์เทพ เคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 มีสิทธิ์ได้รับเงินบำเหน็จชราภาพจากกองทุนประกันสังคม 14,712.18 บาท ยังไม่รวมดอกผล และนายพิชิต ได้รับเงินกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ ของกรมการจัดหางานกรณีเสียชีวิต 40,000 บาท
จากการตรวจสอบการส่งเงินในระบบประกันสังคมของนายพิชิต เคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 มีสิทธิ์ได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ จากกองทุนประกันสังคม 44,750.21 บาท ยังไม่รวมดอกผล
อย่างไรก็ตาม กรณีเสียชีวิตจะต้องได้รับใบมรณบัตรซึ่งออกโดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอลก่อน ครอบครัวจึงจะสามารถยื่นเรื่องขอรับเงินกองทุน โดยยื่นรับเงินสิทธิประโยชน์ในประเทศอิสราเอลได้ที่ สำนักงานจัดหางาน จ.ขอนแก่น ส่วนเงินบำเหน็จชราภาพจากกองทุนประกันสังคมยื่นที่สำนักงานประกันสังคม