ครอบครัวรอรับแรงงานไทยกลับจากอิสราเอล ที่สถาบันบำราศฯ เผย ห่วงสามีถูกยิงที่หัวเข่า ต้องนั่งวีลแชร์ แต่ยังโชคดีติดต่อผ่านวิดีโอคอลได้ตลอด จากนี้ขอให้ทำงานที่ไทย ไม่ให้ไปทำงานต่างประเทศอีก ด้าน สธ.- แรงงาน จัดจุดตรวจสุขภาพ และมอบเงินเยียวยาตามกองทุนช่วยเหลือคนไปทำงานต่างประเทศ
จากกรณีคนไทยชุดแรกจำนวน 15 คน ที่เดินทางจากอิสราเอลกลับถึงประเทศไทย วันนี้ (12 ต.ค.) โดยพบว่า มี 4 คนที่ได้รับบาดเจ็บ โดย 2 คน ต้องนั่งรถวีลแชร์ เนื่องจากรายหนึ่งถูกยิงที่ขา อีกรายถูกยิงที่เข่า ซึ่งทั้งหมดจะถูกส่งตัวมายังอาคารศูนย์กักกัน (Quarantine Center) เพื่อคัดกรองสุขภาพกายและจิตใจ หากไม่มีปัญหาจะส่งตัวกลับภูมิลำเนา หรือหากมีปัญหาสุขภาพจะส่งต่อ รพ.ตามที่กำหนด
วันนี้ (12 ต.ค.) ที่อาคารศูนย์กักกัน สถาบันบำราศนราดูร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดเตรียมสถานที่เพื่อเตรียมความพร้อมรับคนไทยเดินทางกลับจากอิสราเอลชุดแรก โดยมีการตั้งจุดเพื่อคัดกรองสุขภาพ ขณะที่กระทรวงแรงงาน ได้จัดเตรียมจุดบริการจ่ายเงินเยียวยาตามกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ คนละ 15,000 บาท พร้อมมอบถุงยังชีพ โดยมีญาติของผู้ที่เดินทางกลับ ทยอยมารอรับเพื่อกลับภูมิลำเนาด้วยกัน
ด้าน นางจิตรา เทศคำจร ภรรยา นายกรัชกร พุทธสอน ชาวพะเยา ถูกยิงที่เข่า เดินไม่ได้ขอใช้วีลแชร์ กล่าวว่า สามีตนไปทำงานที่อิสราเอลตั้งปี 2565 เนื่องจากรายได้ดี เฉลี่ยเดือนละ 5-6 หมื่นบาท รู้ว่า อิสราเอลเป็นพื้นที่ที่มีการสู้รบ แต่ไม่คิดว่าจะรุนแรงขนาดนี้ พอทราบข่าวว่า สามีถูกยิงที่หัวเข่า เมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา ใกล้กับฉนวนกาซา ซึ่งห่างจากจุดปะทะไม่มาก เป็นพื้นที่ทำการเกษตรปลูกซูกินี โดยมีนายจ้างคอยช่วยเหลือพาส่ง รพ. และติดต่อสถานทูตได้ทันที ทำให้คนในสถานทูตมารับเมื่อ 11 ต.ค. แม้ตนและลูกๆ ก็รู้สึกตกใจและเป็นห่วง แต่เมื่อทราบข่าวว่าได้รับการช่วยเหลือและปลอดภัย ก็ได้บอกลูกๆ ว่า ขณะนี้พ่ออาการปลอดภัยแล้ว ทั้งนี้ ในช่วงที่เกิดเหตุความรุนแรง แม้จะค่อนข้างชุลมุน แต่ตนสามารถติดต่อสามีได้ทุกวันทางวิดีโอคอล อย่างไรก็ตาม วันนี้ก็เลยเดินทางมารับกลับบ้านด้วยกัน โดยตั้งใจจะพาสามีและครอบครัวไปพักฟื้นที่สมุทรปราการ เนื่องจากตนทำงานที่นั่น ทั้งนี้ ไม่อยากให้สามีไปทำงานที่ต่างประเทศอีก เพราะกังวลและกลัวจะเกิดอันตราย อยากให้สามีทำงานที่ประเทศไทยดีกว่า
