สธ.เตรียมลงพื้นที่สนามบินสุวรณณภูมิ พรุ่งนี้ เตรียมพร้อมคัดกรองสุขภาพกายและจิต 15 คนไทยอพยพกลับจากอิสราเอล ไฟลต์แรกถึงไทยวันที่ 12 ต.ค.นี้ พร้อมจัดเตรียม รพ.รับส่งต่อ หากไม่มีปัญหาให้กลับภูมิลำเนาได้ ไม่ต้องกักกันเฝ้าระวังโรค ส่วนล็อตสองอาจจัด Airbus 340 มาถึงไทยเร็วขึ้น 15 ต.ค.
เมื่อวันที่ 10 ต.ค. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมดูแลคนไทยที่อพยพกลับจากประเทศอิสราเอล ว่า ได้รับรายงานจาก นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รักษาราชการแทนรองปลัด สธ. ซึ่งได้ร่วมประชุมคณะทำงานศูนย์ประสานงานฉุกเฉิน (Rapid Response Center - RRC) เพื่อเตรียมการอพยพคนไทยในอิสราเอล ครั้งที่ 3 โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธาน ว่า จากการติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลโดยกระทรวงการต่างประเทศ พบว่า ขณะนี้ยังคงมีการสู้รบต่อเนื่อง ได้ลงทะเบียนสำรวจคนไทย 3,914 คน มีผู้ประสงค์เดินทางกลับประเทศไทย 3,862 คน ตามลำดับพื้นที่เสี่ยง ซึ่งจะเดินทางโดยเที่ยวบินพาณิชย์ รอบแรกวันที่ 11 ต.ค. 2566 จำนวน 15 คน ในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 4 คน กลับถึงประเทศไทยวันที่ 12 ต.ค. 2566 เวลา 10.25 น. ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ส่วนรอบต่อไปวันที่ 18 ต.ค. 2566 จำนวน 80 คน โดยกองทัพอากาศ ซึ่งอาจจะเร่งรัดให้เร็วขึ้นเป็นวันที่ 15 ต.ค. 2566 โดยใช้ Airbus 340 จำนวน 140 คน ขึ้นกับการรวบรวมคนไทยจากพื้นที่
ด้าน นพ.สุรโชคกล่าวว่า การเตรียมการดูแลคนไทยที่เดินทางกลับมารอบแรกวันที่ 12 ต.ค. 2566 สธ.จะลงพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในวันที่ 11 ต.ค.นี้ เพื่อเตรียมการคัดกรองสุขภาพกายและสุขภาพจิตของผู้เดินทางกลับ ซึ่งสามารถให้บริการดูแลได้จบภายใน 1 วัน โดยจัดเตรียม รพ.รับส่งต่อหากมีปัญหาสุขภาพกาย ได้แก่ รพ.ราชวิถี รพ.เลิดสิน รพ.นพรัตนราชธานี ซึ่งจะพิจารณาส่งต่อตามสถานการณ์และปัญหาสุขภาพของผู้ป่วย ส่วนด้านสุขภาพจิต ได้เตรียม รพ.รับส่งต่อ คือ สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา รพ.ศรีธัญญา และสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ แต่หากไม่มีปัญหาสุขภาพใดๆ ก็จะให้เดินทางกลับภูมิลำเนาได้โดยไม่จำเป็นต้องมีการเฝ้าระวังกักกันโรคติดต่อ เนื่องจากอิสราเอลไม่มีสถานการณ์เรื่องโรคระบาดที่ต้องเฝ้าระวัง