บุรีรัมย์ - เมียและแม่หนุ่มแรงงานชาว อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ที่ทำงานใกล้เขตสู้รบในอิสราเอล เผยวิดีโอคอลคุยครั้งสุดท้ายวันเกิดเหตุกลุ่มฮามาสโจมตี พอเสียงปืนระเบิดดังติดต่อไม่ได้ 5 วันแล้วไม่รู้ชะตากรรม วอนรัฐช่วยหากรอดกลับมาจะให้บวชแก้บนและไม่ให้ไปทำงานต่างประเทศอีก ขณะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรุดเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมประสานหาทางช่วยเหลือ ล่าสุดบุรีรัมย์ญาติแจ้งติดต่อแรงงานไม่ได้แล้ว 8 ราย
วันนี้ (11 ต.ค.) นางเอมอร เรียงไข อายุ 59 ปี และ น.ส.สายชล ชาติกุญชร อายุ 38 ปี แม่ และภรรยาของนายจักรพันธ์ เดี่ยวไธสง อายุ 37 ปี แรงงานชาว ต.บ้านเป้า อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ที่ทำงานอยู่อิสราเอลห่างจากพื้นที่สู้รบประมาณ 5 กิโลเมตร ได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือ ให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งหาแนวทางช่วยเหลือแรงงานไทยที่อยู่ในพื้นที่สู้รบ รวมถึงนายจักรพันธ์ด้วย เพราะครอบครัวติดต่อไม่ได้ 5 วันแล้วตอนนี้ไม่รู้ชะตากรรมว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง หลังจากวิดีโอคอลคุยกันล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 ต.ค. 66 แล้วพอได้ยินเสียงปืน ระเบิดดังขึ้นก็ขาดการติดต่อไปเลย แต่ก็ภาวนาขอให้ปลอดภัย
แม่ และภรรยาบอกว่า หลังจากติดต่อไม่ได้ก็รู้สึกกังวลและเป็นห่วงมาก ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้างได้แต่ภาวนาขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองให้ปลอดภัย แต่หากรอดชีวิตกลับมาก็อยากให้ทางการช่วยพาส่งกลับไทย เมื่อมาถึงบ้านจะให้บวชสัก 7 วันเพื่อเป็นการแก้บน หลังจากแม่บนเอาไว้ ส่วนเหตุผลที่นายจักรพันธ์เลือกไปทำงานในอิสราเอลเพราะค่าแรงสูงกว่าไทย และเป็นเสาหลักของครอบครัวต้องส่งเงินมาดูแลแม่ ภรรยาและลูกทุกเดือน
ล่าสุด นางวาทิณี โฆษาศิวิไลซ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน, พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมสอบถามความต้องการที่อยากให้ช่วยเหลือแรงงานไทย โดยได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมครอบครัวแรงงาน 4 ราย จาก 8 รายที่ญาติแจ้งว่าติดต่อไม่ได้
จุดที่ 1 ณ บ้านเลขที่ 122 หมู่ที่ 7 ตำบลแดงใหญ่ อำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ เป็นบ้านของนายสันติ บุญพร้อม
จุดที่ 2 ณ บ้านเลขที่ 31 หมู่ที่ 2 ตำบลหนองเยือง อำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ เป็นบ้านของ นายวินัย ยางนอก
จุดที่ 3 ณ บ้านเลขที่ 8/4 ม.3 ตำบลบ้านเป้า อำเภอพุทไธสง เป็นบ้านของนายจักรพันธ์ เดี่ยวไธสง
จุดที่ 4 ณ บ้านเลขที่ 14 ม. 12 ตำบลบ้านยาง อำเภอพุทไธสง เป็นบ้านของนายเทียนชัย ยอดทองดี
หลังจากเดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวแรงงานแล้ว ก็จะได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือแรงงานกลุ่มดังกล่าวตามขั้นตอนต่อไป
