ศูนย์ข่าวศรีราชา - จนท.เมืองพัทยา เร่งนำรถแบ็กโฮเข้าเกลี่ยผืนทรายบริเวณชายหาดพัทยาเหนือจดพัทยากลาง ระยะทางกว่า 2 กม. พร้อมตักหน้าทรายที่ถูกน้ำพัดหายในทะเลกว่าหมื่น ลบ.ม.กลับคืน หลังฝนตกหนักเมื่อ 2 วันก่อน ทำชายหาดพังยับ คาดใช้เวลา 3 วัน จึงจะเรียกภาพสวยงามกลับคืนมา
จากกรณีที่มีฝนตกตกหนักติดต่อกันนานกว่า 2 ชั่วโมงในพื้นที่เมืองพัทยา และ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อคืนวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา จนทำให้เกิดน้ำท่วมขังสูงประมาณ 50-80 เซนติเมตรบนถนนหลายสาย โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำทั้งบริเวณถนนเลียบทางรถไฟซอยเขาตาโลไปถึงซอยวัดธรรม ถนนสุขุมวิทหน้าสถานีทางหลวงเก่า และถนนสายสามช่วงแยกมุมอร่อย พบว่ามีรถยนต์หลายคันจอดดับกลางทาง
นอกจากนั้น มวลน้ำจำนวนมากที่ไหลบ่าจากฝั่งตะวันออกเข้าสู่พื้นที่เมืองพัทยา ยังทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังหลายจุด โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณชายหาดเมืองพัทยา ตั้งแต่พัทยาเหนือไปจนถึงพัทยากลาง ซึ่งมวลน้ำได้ไหลลงสู่ผืนทรายที่กรมเจ้าท่า ทำการถมไว้เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยว จนทำให้ทรายนับหมื่นลูกบาศก์เมตรถูกน้ำกัดเซาะหาย
และยังทำให้ผืนทรายถูกน้ำเซาะเป็นร่องลึกกว่า 1 เมตร กว้างประมาณ 4 เมตร และจะพบการกัดเซาะในลักษะดังกล่าวตลอดแนวชายหาดกว่า 2 กิโลเมตรนั้น
วันนี้ (11 ต.ค.) นายอนุวัตร ทองคำ ผู้อำนวยการสำนักการช่างสุขาภิบาล เมืองพัทยา เปิดเผยว่าหลังเกิดเหตุเมืองพัทยา ได้เข้าดำเนินการแก้ไขปรับปรุงพื้นที่บริเวณชายหาดในทันที ด้วยการนำรถแบ็กโฮ 3 คัน เข้าเกลี่ยผืนทรายเพื่อให้มีระดับเสมอ
นอกจากนั้น ยังได้ทำการตักหน้าทรายที่ถูกซัดลงสู่ทะเลกลับขึ้นมาเสริมในจุดที่ถูกกัดเซาะหายไป โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 วันจึงจะแล้วเสร็จ