เชียงราย - ปศุสัตว์ฯ ออกประกาศเขตโรคระบาด คุมพื้นที่ “ดอยสะโง้ ชายแดนเชียงแสน” แล้ว..หลังพบอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (AFS) ระบาด ทำหมูดำชาวอาข่าตายเป็นเบือเกือบ 70 ตัว คุมเข้มห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์รัศมี 5 กม.
วันนี้ (30 ก.ย. 66) นายพืชผล น้อยนาฝาย ปศุสัตว์ จ.เชียงราย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์ จ.เชียงราย และปศุสัตว์ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ด่านกักกันสัตว์เชียงราย สํานักงานปศุสัตว์เขต 5 และศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคเหนือตอนบน ฯลฯ ได้ร่วมกันลงพื้นที่หมู่บ้านดอยสะโง้ หมู่ 7 ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เพื่อร่วมหารือกับผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจําตําบล และชาวบ้านในพื้นที่
หลังจากที่ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุสุกรหรือหมูดำของชาวบ้าน 8 ราย ในหมู่บ้านดอยสะโง้ ซึ่งชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์อาข่า เกิดป่วยและตายอย่างผิดปกติจำนวนถึง 68 ตัว ขณะที่ในหมู่บ้านยังมีผู้เลี้ยงสุกรอีกเป็นจำนวนมากด้วย
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ได้ตรวจซากสุกรแล้วพบว่าตายด้วยโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) จึงได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 20 แห่ง พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ประกาศกำหนดเขตโรคระบาดชั่วคราวชนิด ASF เพราะมีแนวโน้มจะระบาดออกไปยังพื้นที่ข้างเคียงจากการเคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์ที่เป็นพาหะนำโรค ทำให้จัดการควบคุมโรคโดยห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์ออกนอกพื้นที่ในรัศมี 5 กิโลเมตร
จากนั้นได้สำรวจข้อมูลจำนวนเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรและจำนวนสุกรทั้งหมด พบว่าในหมู่บ้านดอยสะโง้มีผู้เลี้ยงสุกรจำนวน 33 ราย มีสุกรรวมกันทั้งหมด 198 ตัว และมีสุกรที่เป็นของชาวบ้าน 8 รายดังกล่าว ตายแล้ว 68 ตัว เหลือสุกรในหมู่บ้านอีก 170 ตัว
ทั้งนี้ ปศุสัตว์ จ.เชียงราย ได้แต่งตั้งคณะกรรมการประเมินราคาสัตว์และซากสัตว์ เพื่อจ่ายค่าชดเชยหลังมีการกำจัดสุกรที่จดทะเบียนการเลี้ยงและระบุแหล่งที่มาของสุกรอย่างถูกต้อง หากพบว่ามีการลักลอบนําเข้าสุกรโดยไม่มีแหล่งที่มาจะไม่สามารถขอรับค่าชดใช้หลังจากทําลาย
ทั้งนี้ใง ในช่วงที่มีการประกาศดังกล่าวทางด่านกักกันสัตว์เชียงรายได้มีการตั้งด่านเพื่อตรวจสอบการลักลอบหรือการเคลื่อนย้ายสัตว์เข้า-ออกเขตหมู่บาน และแจ้งให้ชาวบ้านในหมู่บ้านและพื้นที่ในรัศมี 1 กิโลเมตร งดเว้นการเลี้ยงสุกรหรือนำสุกรเข้ามาเลี้ยงโดยเด็ดขาด จนกว่าเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์จะประเมินว่าพื้นที่มีความปลอดภัยแล้ว เนื่องจากเชื้อ ASF สามารถอยู่ในสภาพแวดล้อมได้นาน
ส่วนพื้นที่ในรัศมีตั้งแต่ 1-5 กิโลเมตร ให้เกษตรกรเฝ้าระวังโรคอย่างเข้มงวด หากพบสุกรป่วยตายผิดปกติให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อย่างเร่งด่วน และพื้นที่อื่นๆ ในเขต อ.เชียงแสน และอำเภอข้างเคียง ให้เฝ้าระวังโรคอย่างใกล้ชิด สิ่งสำคัญคือให้ปรับปรุงฟาร์มที่มีระบบความปลอดภัยเพื่อป้องกันโรคเข้าฟาร์มได้ง่าย
