ลำพูน - ตำรวจภูธรจังหวัดลำพูนแจงชัด..ปมทุจริตเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน เบื้องต้นพบผู้กระทำผิด-ไล่ออกไม่จ่ายชดเชย/บำเหน็จ แล้ว 4 ราย จ่อเชือดฝ่ายบัญชีอีก 1 ยึดทรัพย์ประมูลขายทอดตลาดแล้ว 1 รอบ แต่หนี้สงสัยจะสูญสูงถึง 208 ล้าน จำต้องงดปันผลปีบัญชี 66
วันนี้ (29 ก.ย. 66) พล.ต.ต.บุณยวัต เกิดกล่ำ ผบก.ภ.ลำพูน ในฐานะประธานกรรมการสหกรณ์ตำรวจลำพูน ชุดที่ 47 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ยุทธนา แก่นจันทร์ ที่ปรึกษาฯ พ.ต.อ.พชรพล วงศ์รจิต รองประธานกรรมการฯ ร่วมกันแถลงข่าวที่สหกรณ์ออมทรัพย์ตํารวจภูธรจังหวัดลําพูน ต.บ้านกลาง อ.เมืองลำพูน กรณีทุจริตเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน
ผบก.ภ.ลำพูนระบุว่า กรณีข่าวพบการทุจริตของเจ้าหน้าที่สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน ทำให้สหกรณ์ฯ ได้รับความเสียหายจำนวนมากนั้น เกิดขึ้นหลังจากผู้แทนสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ลำพูนได้นำเสนอในที่ประชุมคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน ว่ามีสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน จำกัด รายหนึ่งได้เข้าตรวจสอบรายการเคลื่อนไหวทางการเงินของตนในแอปพลิเคชัน Smart Member พบว่าวันที่ 23 กันยายน 2565 มีรายการกู้เงินฉุกเฉิน 100,000.00 บาท โดยที่ตนเองยืนยันว่าไม่ได้ทำสัญญากู้เงินดังกล่าว และคณะกรรมการดำเนินการฯ ยังได้รับทราบข้อมูลในทำนองเดียวกันจากสมาชิกสหกรณ์ฯ อีกหลายราย
จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีเจ้าหน้าที่สหกรณ์ จำนวน 3 ราย (สินเชื่อ 2 ราย, การเงิน 1 ราย) ร่วมกันกระทำความผิดทางอาญา ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง ปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม จึงมีคำสั่ง "ไล่ออกและไม่จ่ายค่าชดเชยและเงินบำเหน็จ" เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ราย ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป ต่อมาคณะกรรมการได้ตรวจสอบพบว่าผู้จัดการสหกรณ์ฯ มีข้อบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ จึงมีคำสั่ง "ไล่ออกและไม่จ่ายค่าชดเชยและเงินบำเหน็จ" ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคมเป็นต้นไป
ทั้งนี้ ยังไม่ปรากฏว่ามีคณะกรรมการมีส่วนร่วมกระทำผิดกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ แต่จะบกพร่องต่อหน้าที่ หรือประมาทเลินเล่อหรือไม่ อยู่ระหว่างดำเนินการ ยังไม่แล้วเสร็จ รวมถึงการตรวจสอบผู้ตรวจสอบกิจการ และผู้สอบบัญชี ตลอดห้วงเกิดเหตุ โดย ณ ขณะนี้ได้ตรวจสอบลงโทษฝ่ายจัดการ ไล่ออก ไปแล้วทั้งสิ้น 4 ราย และอยู่ระหว่างดำเนินการเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ (บัญชี) อีก 1 ราย ซึ่งอยู่ในขั้นตอนแจ้งข้อกล่าวหา/สอบสวนลงโทษ
นอกจากนี้ ยังได้แจ้งความดำเนินคดี ณ สถานีตำรวจภูธรนิคมอุตสาหกรรม จังหวัดลำพูน คดีอาญาเลขที่ 126/2566 ลงวันที่ 31 มกราคม 2566 ข้อหา "ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง ปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม" และสรุปสํานวนฯ นําส่งอัยการจังหวัดลำพูน เมื่อวันที่ 22 มีนาคม ต่อมาวันที่ 29 มีนาคม อัยการจังหวัดลำพูนส่งคืนสำนวนการสอบสวนฯ เพื่อให้พนักงาน สอบสวนดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมแล้วสรุปสํานวนเสนออีกครั้ง
สหกรณ์ฯ ได้ส่งหนังสือยืนยันยอดหนี้ให้สมาชิกจำนวน 840 ราย และให้สมาชิกตอบกลับยืนยัน/ปฏิเสธ โดยร่วม-ตรวจสอบข้อมูลกับสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ลำพูน และสำนักงานสอบบัญชีนครพิงค์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่าง กระบวนการตรวจสอบยอดความเสียหาย และจะได้ทำการถอดหนี้และปรับสถานะให้แก่สมาชิกที่ถูกสวมสิทธิ ตามแนวทางและวิธีการของสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ต่อไป
นอกจากนี้ยังได้ทําการตรวจยึดทรัพย์ที่คาดว่าได้มาจากการกระทําความผิดจํานวนหลายรายการ และได้ทําการประมูลทรัพย์สินครั้งที่ 1 ไปแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม และจะทำการประมูลทรัพย์สินที่เหลือในคราวต่อไป
สำหรับค่าความเสียหายที่ปรากฏชัดแล้ว คณะกรรมการดำเนินการได้หารือกับสหกรณ์จังหวัดลำพูน สำนักงานตรวจบัญชีลำพูน สำนักงานสอบบัญชีนครพิงค์ แจ้งว่าไม่สามารถจัดให้มีปันผลประจำปี 2566 ได้ เนื่องจากผลการดำเนินการเมื่อหักลบกับค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (208 ล้านบาท) ทำให้ไม่มีกำไรสำหรับปีบัญชี 2566 มาปันผลให้แก่สมาชิกได้ รวมทั้งได้เชิญผู้แทนสหกรณ์จังหวัดลำพูน สำนักงานตรวจบัญชีลำพูน สำนักงานสอบบัญชีนครพิงค์ มาชี้แจงแนวทางแก่ผู้แทนสมาชิกที่เคยยื่นหนังสือร้องเรียนเมื่อวันพุธที่ 20 กันยายน และให้คำชี้แจงแก่คณะกรรมการดำเนินการแล้วเมื่อวันที่ 19 กันยายน และวันที่ 26 กันยายน ยืนยันว่าไม่สามารถจัดให้มีปันผลให้กับสมาชิกได้ แต่อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการดำเนินการได้หาแนวทางเยียวยาให้สมาชิก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้
ด้านการดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขของสหกรณ์ฯ ได้ร่วมกับผู้แทนสำนักงานสหกรณ์จังหวัดลำพูน สำนักงานตรวจบัญชีลำพูน ผู้ตรวจสอบกิจการสหกรณ์ฯ ผู้สอบบัญชีจากสำนักงานสอบบัญชีนครพิงค์ และคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงและพิจารณาหาแนวทาง เพื่อแก้ไขปัญหากรณีดังกล่าวตลอดมาจนถึงปัจจุบัน