xs
xsm
sm
md
lg

รอยล้อชัด! กระบะ “ด.ต.” พุ่งข้ามเลนชน จยย.ดับ 3 ศพ แม่สุดช็อกลูกโทร.บอกให้รอกินข้าวกลายเป็นศพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บุรีรัมย์ - ตำรวจตรวจจุดเกิดเหตุพบรอยล้อรถกระบะ “ด.ต.” พุ่งข้ามเลนชน จยย.ลากไกลกว่า 60 เมตรก่อนไฟลุกท่วม ทำให้ จนท.รพ.สต. พร้อมลูกสาว 4 ขวบและสามีเสียชีวิตคาที่ 3 ศพ ขณะเจ้าตัวยันไม่ได้ดื่ม ด้านแม่สาว รพ.สต. เผยสุดช็อกลูกโทร.บอกให้รอกินข้าวพร้อมกันแต่กลายเป็นศพ วอนคู่กรณีรับผิดชอบ ขณะงานศพสุดเศร้าครอบครัวสูญเสียพร้อมกันถึง 3 ราย

วันนี้ (24 ก.ย.) ความคืบหน้ากรณีที่รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ หมายเลขทะเบียน กข 3590 บุรีรัมย์ ซึ่งมี ด.ต.ขวัญชัย ปัดใจ อดีตตำรวจนางรองเกษียณอายุราชการ เป็นคนขับ พุ่งชนรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า PCX สีแดง บนถนนสายสระประดู่-ทุ่งแสงทอง ต.ทุ่งแสงทอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 18.40 น. วานนี้ (23 ก.ย. 66) ก่อนเกิดไฟลุกไหม้ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ติดอยู่ด้านหน้าใต้รถกระบะ จนเป็นเหตุให้นายอานนท์ ทองจันทร์ อายุ 25 ปี คนขับรถกระบะที่กระเด็นห่างจากตัวรถประมาณ 20 เมตร เสียชีวิตคาที่ ใกล้กันยังพบร่างนางสาวประภาพร ศรีสุรินทร์ หรือฟ้า อายุ 22 ปี เจ้าหน้าที่ รพ.สต.ทุ่งแสงทอง ซึ่งเป็นภรรยาเสียชีวิตคาที่เช่นกัน และที่สลดใจยังพบร่างของ ด.ญ.กัญญาพร วงศ์งาม หรือน้องเฟย่า วัย 4 ขวบ ลูกสาวของ น.ส.ประภาพร เสียชีวิตอยู่ท้ายรถกระบะคู่กรณีที่ขับชนด้วย คาดว่าน่าจะชนอย่างแรงจนร่างน้องกระเด็นไปอยู่บนกระบะท้ายรถ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น


ล่าสุดวันนี้ ร.ต.อ.อนันท์ ศรีเสน รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม โดยจากการลงพื้นที่ตรวจสอบก็พบรอยล้อรถกระบะในลักษณะข้ามเลนไปอีกฝั่ง จึงคาดว่ารถกระบะน่าจะข้ามเลนไปชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่สวนทางมา จนทั้ง 3 คนที่นั่งมาในรถ จยย.กระเด็นตกจากรถ ก่อนที่จะลากซาก จยย.ติดไปกับใต้รถกระบะด้วย จากร่องรอยคาดว่าน่าจะลากไกลกว่า 60 เมตร จนทำให้เกิดไฟลุกท่วม ขณะที่เจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งก็สอดคล้องกับผลตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ที่ไม่พบแต่อย่างใด

ทั้งนี้ จากการสอบถามอดีตตำรวจคนขับรถกระบะหลังจากถูกนำส่ง รพ.เพราะมีอาการศีรษะแตก ปากแตก ก็ยังให้การในลักษณะมึนๆ งงๆ อาจจะยังตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นประกอบกับอายุมาก

นางอุสา ศรีสุรินท์ แม่ของ น.ส.ประภาพร ผู้ตาย
ขณะที่เจ้าตัวบอกว่าก่อนเกิดเหตุเพิ่งกลับจากทำไร่ กำลังจะขับกระบะกลับบ้าน แต่พอมาถึงจุดเกิดเหตุเหมือนว่าเห็น จยย.จะแซงกระบะอีกคันแต่แซงไม่พ้น แล้วตนก็เสียหลักไปชน จยย.จนเกิดไฟลุกไหม้รถ ตอนแรกก็ไม่รู้ว่า จยย.ติดอยู่ใต้รถด้านหน้า และไม่รู้ว่าเด็กกระเด็นมาเสียชีวิตอยู่ท้ายกระบะ เพราะตอนนั้นค่อนข้างมืด เนื่องจากจุดเกิดเหตุไม่มีไฟส่องสว่าง กระทั่งมีคนพาไปส่ง รพ. เบื้องต้นก็ได้ให้ลูกไปแสดงความเสียใจต่อครอบครัวช่วยงานศพแล้ว ส่วนจะดูแลเยียวยาอะไรก็ต้องพูดคุยกันอีกที

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปวัดบ้านชุมแสง ตำบลทุ่งแสงทอง อำเภอนางรอง ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพแม่และลูกสาว 4 ขวบ ส่วนสามีญาติรับกลับไปทำพิธีทางศาสนาที่ อ.บ้านกรวด ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ เพราะต้องสูญเสียบุคคลในครอบครัวไปถึง 3 รายพร้อมกัน


สอบถาม นางอุสา ศรีสุรินท์ อายุ 58 ปี แม่ น.ส.ประภาพร ผู้ตาย บอกว่า ช่วงเย็นเมื่อวาน ลูกสาว พร้อมหลานสาว และสามีใหม่ของลูกได้พากันขี่ จยย.ไปหาหมอในตัว อ.นางรอง และขากลับลูกสาวบอกว่าจะแวะซื้อกับข้าวมาให้แม่กินด้วย เพราะแม่ป่วยกินอะไรไม่ค่อยได้มาหลายวันแล้ว ลูกสาวยังบอกด้วยว่าให้แม่รอกินข้าวเย็นพร้อมกัน ตนก็รอกินข้าวพร้อมลูก แต่สักพักด้วยความเป็นห่วงก็โทร.ถามว่าลูกมาถึงไหนแล้ว แต่ลูกไม่รับสายซึ่งที่ผ่านมาเวลาโทร.ไปลูกจะรับสายตลอด ก็ใจคอไม่ดี กระทั่งมีคนในหมู่บ้านมาบอกว่าลูกเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตพร้อมกันทั้ง 3 รายแล้วตอนนั้นแทบช็อกทำอะไรไม่ถูก ตนไปไม่ไหวจึงให้พ่อเขาออกไปดูที่เกิดเหตุ

ส่วนตัวไม่ได้ติดใจเพราะรู้ว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่อยากให้คู่กรณีมาดูแลเยียวยาบ้างเพราะต้องสูญเสียคนที่รักไปถึง 3 คนพร้อมกัน มันก็ทำใจไม่ได้ ส่วนเรื่องคดีก็ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการ


เมื่อผู้สื่อข่าวไปติดตามเฟซบุ๊กของทั้งสองสามีภรรยาพบว่าผู้ชายเพิ่งจะเปิดร้านตัดผมไปเมื่อวันที่ 22 ก.ย. 66 ได้เพียงวันเดียวก็มาเกิดอุบัติเหตุ ส่วน จยย.ก็เพิ่งซื้อได้ประมาณ 1 สัปดาห์เพิ่งจะเอาไปให้หลวงพ่อที่วัดเจิม ส่วนเฟซฯ ของผู้หญิงก็มีเพื่อนร่วมงานและคนรู้จักมาแสดงความอาลัยทั้งแม่และลูกสาว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาคนขับกระบะ เนื่องจากอยู่ระหว่างการสอบสวนพยานแวดล้อม และหาข้อมูลหลักฐานให้ครบถ้วนก่อนเพื่อความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย












กำลังโหลดความคิดเห็น