นครสวรรค์ - อุทาหรณ์ทาสยานรก..หนุ่มคลองขลุงเสพแล้วดีด กลัวโดนจับ กดคันเร่งควบกระบะแหกด่านฯ ตั้งแต่เขตเมืองนครสวรรค์-ไพศาลี ตร.ขับรถไล่ล่าไกลกว่า 100 กม. สุดท้ายฝ่าไฟแดงชนพ่วง 18 ล้อคาแยกไดตาล บาดเจ็บหนังหัวเปิดเห็นกะโหลก
พ.ต.อ.โกสิต กาญจนะโกมล ผกก.สภ.ไพศาลี นครสวรรค์ ได้เปิดเผยภาพกล้องวงจรปิดบางส่วน กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสกัดจับผู้ต้องหาเสพยาเสพติ ซิ่งรถกระบะหนีแหกด่านตำรวจไว้ได้ เมื่อคืนที่ผ่านมา (19 ก.ย. 66)
ซึ่งเผยให้เห็นภาพรถกระบะของผู้ต้องหาได้ขับหลบหนีเข้ามาในพื้นที่ อ.ไพศาลี โดยมีรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจขับไล่ตามมาติดๆ จนทำให้ชาวไพศาลีต่างแตกตื่นตกใจกันพอสมควร
เพราะนอกจากผู้ต้องหาจะขับรถหนีการไล่จับกุมอย่างไม่ลดละแล้ว ยังขับหนีย้อนศรเข้าไปทางเขตเศรษฐกิจย่านการค้าที่มีผู้คนชาวไพศาลีมาจับจ่ายซื้อของกันเป็นจำนวนมากด้วย แต่ถือว่าเคราะห์ดีที่ไม่มีใครได้รับอันตรายแต่อย่างใด
และสุดท้าย ผู้ต้องหาได้ไปจนมุม เมื่อขับรถพุ่งฝ่าไฟแดงไปชนกับรถพ่วง จนได้รับบาดเจ็บหนักถึงขั้นหนังศีรษะเปิดจนเห็นกะโหลก ต้องส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ พร้อมกับมีการอายัดตัวเอาไว้
พ.ต.อ.โกสิตระบุด้วยว่า จากการสอบถามผู้ต้องหาในเบื้องต้น เจ้าตัวรับสารภาพ เสพยาบ้ามาก่อนจะขับรถกระบะคู่ใจ มาเจอกับด่านตรวจ แล้วเกิดอาการหลอน กลัวโดนจับเพราะเพิ่งเสพยามา แถมในรถยังมียาบ้าอยู่อีก 4 เม็ด จึงกดคันเร่งเต็มสปีด และหนีแหกด่านมาตั้งแต่เขต อ.เมืองนครสวรรค์ แล้วมาประสบอุบัติเหตุจนมุมที่ อ.ไพศาลี รวมระยะทางเกือบ 100 กิโลเมตร
ส่วนการสอบปากคำอื่นๆ ตอนนี้ยังไม่สามารถสอบได้ เนื่องจากเจ้าตัวยังรักษาอาการอยู่ที่โรงพยาบาล ต้องรอให้รักษาอาการให้หายดี พอให้การได้แล้วจึงจะควบคุมตัวมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับผู้ต้องหานายธนกฤต อายุ 45 ปี ชาว อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ได้ขับรถกระบะ ยี่ห้อโตโยด้า วีโก้ สีบรอนซ์ แบบยกสูง ติดป้ายทะเบียนนครพนม แหกด่านตรวจป้องกันและปราบปรามปัญหาอาชญากรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในพื้นที่ สภ.หนองปลิง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 19 ก.ย.
จากนั้นได้ขับหลบหนีผ่านพื้นที่ อ.ท่าตะโก ก่อนจะมุ่งหน้าเข้า อ.ไพศาลี แล้วไปประสบอุบัติเหตุ ขับฝ่าไฟแดงไปพุ่งชนกลางลำกับรถพ่วง 18 ล้อที่สี่แยกไดตาล ทำให้เจ้าตัวได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนการตรวจค้นภายในรถ พบว่าเจ้าตัวได้ซุกซ่อนยาบ้าเอาไว้จำนวน 4 เม็ด แถมประวัติเก่า ยังพบว่ามีหมายจับเก่าถึง 4 หมายด้วย
ขณะที่รถกระบะของผู้ต้องหาถูกนำมาจอดไว้ยังโรงพัก ซึ่งตกอยู่ในสภาพด้านหน้าพังเสียหายยับเยิน ส่วนรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ทราบว่าได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย และคนขับสามารถขับไปทำงานได้ต่อ
แต่ก่อนเดินทางตำรวจได้มีการเรียกตัวคนขับรถพ่วงมาสอบปากคำแล้ว เจ้าตัวให้การว่าขับรถผ่านสัญญาณการให้ไฟไปตามปกติ แต่จู่ๆ ก็มีรถกระบะของนายธนกฤตพุ่งมาเต็มสปีด แล้วพุ่งเข้าชนส่วนข้างของรถพ่วงอย่างรุนแรง ซึ่งก็มีภาพจากกล้องวงจรปิดที่บริเวณสี่แยกไดตาลไว้ประกอบหลักฐานแล้ว