บุรีรัมย์- คืบหน้าหนุ่มวัย 20 ชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ยอมรับเสพยาบ้าจริงแต่ไม่ได้ทำร้ายตบตีขู่ฆ่าเมียวัย 16 จนต้องอุ้มลูกน้อยวัยเดือนเศษหนี อ้างแค่มีปากเสียงทะเลาะกันแต่เมียขี้น้อยใจเลยอุ้มลูกหนี พร้อมปรับปรุงตัวตามไปง้อเมียที่กาฬสินธุ์ ขณะฝ่ายปกครองลงพื้นที่ตรวจปัสสาวะสามีพบฉี่ม่วงจึงส่งบำบัด
วันนี้ ( 23 ก.ย.) ความคืบหน้ากรณีที่ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ซึ่งมาอาศัยอยู่กินกับนายเจมส์ อายุ 20 ปี ที่ ต.หนองโบสถ์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ แบบสามีภรรยา ได้อุ้มลูกชายวัยเพียง 1 เดือนเศษ หนีไปขอความช่วยเหลือจากญาติสามีและชาวบ้าน โดยอ้างว่าถูกนายเจมส์ สามีหลอนยาบ้าคลุ้มคลั่งแล้วใช้กำลังทำร้ายตบตีและถือมีดขู่จะฆ่า จากนั้นชาวบ้านจึงได้ประสานหน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ เข้าไปตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือ กระทั่ง น.ส.เพชรรัตน์ ภูมาศ นายอำเภอนางรอง ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น จึงได้ให้ความช่วยเหลือโดยให้หน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงไปส่งกลับบ้านเกิดที่ จ.กาฬสินธุ์ ตามความประสงค์ของ น.ส.เอ อีกทั้งนายอำเภอยังให้เงินไว้เป็นค่าใช้จ่ายระหว่างเดินทางและไว้ดูแลลูกน้อยด้วย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง ต.หนองโบสถ์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านของนายเจมส์ ผู้เป็นสามีที่ถูกกล่าวหาว่าทำร้ายและขู่ฆ่าภรรยา ซึ่งนายเจมส์ ก็ยอมรับว่าได้เสพยาบ้าจริง แต่ไม่ได้ทำร้ายตบตีหรือขู่ฆ่าภรรยาตามที่ถูกกล่าวหา แต่ยอมรับว่ามีปากเสียงทะเลาะกันบ่อยจริงตามประสาผัวเมีย แต่ภรรยาเป็นคนขี้น้อยใจมากไม่ว่าเวลาทะเลาะกันตนจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิดก็ต้องเป็นฝ่ายง้อภรรยา ส่วนสาเหตุที่ภรรยาพาลูกหนีไป คาดว่าภรรยาน่าจะน้อยใจที่ตนเองต่อว่าและคิดกลัวไปเองมากกว่าว่าหลอนยาแล้วจะทำร้าย
อย่างไรก็ตามยอมรับผิดและอยากจะไปง้อภรรยา เพราะหลังจากที่ภรรยาพาลูกหนี ตนให้ญาติช่วยออกตามหาแต่ไม่เจอกระทั่งทราบว่าภรรยาหนีกลับบ้านที่กาฬสินธุ์ จึงแชทไปขอโทษและบอกว่าจะไปหาภรรยากับลูกที่กาฬสินธุ์ ซึ่งแม่ของฝ่ายหญิงก็อนุญาต รับปากว่าจะปรับปรุงตัวไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก แล้วจะหางานทำที่กาฬสินธุ์ดูแลภรรยาและลูก
อย่างไรก็ตามล่าสุด น.ส.เพชรรัตน์ ภูมาศ นายอำเภอนางรอง ได้มอบหมายให้ นายธนธรณ์พล ไขว้พันธ์ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มบริหารงานปกครอง และนายจักร์กฤษ ร่วมกูล ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง กำนัน และสารวัตร ลงพื้นที่ไปสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีที่เกิดกับนายเจมส์ พร้อมทั้งตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกายด้วย ผลตรวจปัสสาวะก็พบมีสารเสพติดในร่างกาย และตัวนายเจมส์ ยอมรับว่าเสพยาบ้าจริง จึงได้นำตัวไปเข้ารับการบำบัดรักษาที่โรงพยาบาลนางรอง ส่วนเรื่องที่ภรรยาอ้างว่าถูกทำร้ายนั้นขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายหญิงจะเอาเรื่องหรือไม่