ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - คืบหน้า เยาวชนหญิงวัย 16 ปี เหยื่อ 4 ทรชนรุมโทรม วิ่งให้รถไฟทับ เหตุเครียดหนักซึมเศร้ากำเริบหลังศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา ผวาไม่ปลอดภัยและหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม โชคดีพลเมืองดีช่วยไว้ได้ทัน แพทย์ส่งตัวรักษา รพ.จิตเวชนครราชสีมา เพื่อประเมินอาการและลดอาการเครียด
วันนี้ (14 ก.ย.) จากกรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 6 ได้โพสต์รูปภาพและข้อความ 4 ผู้ต้องหา อายุระหว่าง 20-27 ปี รุมโทรมนักเรียนเยาวชนหญิงอายุ 16 ปี เหตุเกิดตั้งแต่ 28 เมษายน 2566 ผ่านมากว่า 4 เดือนคดีไม่คืบ และผู้ต้องหารับสารภาพหมด ตำรวจไม่จับกุมเนื่องจากว่าไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จนถึงทุกวันนี้ยังตั้งวงดื่มเหล้าน้ำท่อม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งบ้านของผู้ต้องหาอยู่ละแวกเดียวกับบ้านผู้เสียหาย แถมญาติๆ ฝั่งผู้ต้องหายังข่มขู่คุกคามจนผู้เสียหายเข้าโรงพยาบาลจิตเวชฯ ไปเป็นเดือนๆ หลังออกจากโรงพยาบาลยังมายั่วยุพูดจาถากถาง ขู่จ้างทนายฟ้องกลับเพราะทำให้อับอาย และใช้ให้คนเอาเรื่องที่ผู้เสียหายถูกรุมโทรมไปปล่อยข่าวในโรงเรียนด้วย ทำให้ผู้เสียหายเกิดความอับอายจนไม่สามารถไปโรงเรียนได้ กลายเป็นข่าวดังในสื่อมวลชนทุกแขนง กระทั่งหลายภาคส่วนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาช่วยเหลือ ทำให้คดีมีความคืบหน้าและอัยการส่งฟ้องศาลแล้วนั้น
ล่าสุดพบว่านักเรียนเยาวชนหญิงวัย 16 ปี ผู้เสียหาย พยายามจะฆ่าตัวตายโดยวิ่งให้รถไฟทับร่าง แต่มีพลเมืองดีช่วยไว้ได้ทัน โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในคืนวันที่ 12 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา หลังจากได้รับแจ้งเหตุจากอาสากู้ภัยฯ ก็รีบมาตรวจสอบเพื่อให้ความช่วยเหลือ โดยพบว่านักเรียนหญิงอยู่ในอาการเครียด จึงได้พาตัวกลับไปยังสถานีตำรวจเพื่อสงบสติอารมณ์ ก่อนประสานให้รถพยาบาลจากโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมามารับตัวกลับไปทำการรักษา
ทั้งเยาวชนหญิงหลังจากถูกกลุ่มทรชน 4 รายรุมโทรมจนเป็นข่าวดัง คดีไม่คืบหน้า แถมครอบครัวยังถูกฝ่ายผู้ก่อเหตุข่มขู่คุกคาม จนต้องพาไปเก็บตัวที่เซฟต์เฮาส์ภายในตัวจังหวัดนครราชสีมาเพื่อความปลอดภัย ทำให้เยาวชนหญิงผู้เสียหายและครอบครัวรู้สึกหวาดกลัวและเครียดอย่างมาก
และเมื่อมาทราบอีกว่ากลุ่มผู้ต้องหาให้การปฏิเสธในชั้นศาล และยังได้รับการประกันตัวอีก ก็ยิ่งทำให้ผู้เสียหายเกรงกลัวไม่ปลอดภัย ไม่สามารถอยู่ในพื้นที่บ้านของตัวเองได้ ประกอบกับเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้าตั้งแต่อายุ 12 ปี ไม่ได้กินยาอย่างต่อเนื่อง เมื่อมาเกิดเหตุถูกรุมโทรมจึงกระทบกระเทือนจิตใจอย่างมาก อาการเครียดกำเริบ คิดสั้นฆ่าตัวตายหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ และมาครั้งนี้พยายามจะวิ่งให้รถไฟทับตายอีก แต่โชคดีมีคนมาเห็นและช่วยไว้ได้ทันเสียก่อน
จากการตรวจสอบทราบว่าก่อนที่เยาวชนผู้เสียหายจะพยายามก่อเหตุฆ่าตัวตายวิ่งให้รถไฟทับร่าง ผู้เสียหายได้แชจไปคุยกับพยานคนหนึ่งในคดีเพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าของคดี แต่หลังจากแชตคุยก็เกิดความเครียด และพูดย้ำๆ ว่า "ทำไมต้องเป็นเรา ทำไมเรื่องนี้ต้องเกิดขึ้นกับเรา" และพูดถึงเรื่องอื่นๆ ก่อนจะขว้างโทรศัพท์มือถือทิ้ง แล้วร้องไห้วิ่งออกมาหวังให้รถไฟทับเพื่อจบชีวิตดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาได้ประสานเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมจังหวัดฯ เพื่อส่งตัวเยาวชนหญิงเข้าไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ เพื่อประเมินอาการและลดอาการเครียด ก่อนส่งตัวเด็กกลับไปยังภูมิลำเนา ซึ่งขณะนี้เยาวชนผู้เสียหายอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงานคุ้มครองพยาน กระทรวงยุติธรรมแล้ว