ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - คืบหน้ากรณีเยาวชนหญิงวัย 16 ปี ถูก 4 ทรชนรุมโทรม 4 เดือนคดีไม่คืบ ล่าสุดอัยการส่งฟ้องแล้ว ผู้ต้องหากลับคำให้การปฏิเสธในชั้นศาล แต่ยังประสงค์จ่ายเงินเยียวยาตามที่ตกลงกันแต่แรก ขณะอัยการผู้เสียหายยื่นค้านประกันตัว แต่ศาลเห็นว่าไม่เข้าข่ายจึงให้ประกันตัวและติดกำไล EM ด้านเหยื่อยังผวาและยันขอย้ายโรงเรียนหลังถูกบูลลี่หนัก
วันนี้ (5 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีผู้เสียหาย น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 ชาวอำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา พร้อมมารดา เข้าร้องทุกข์ต่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หลัง น.ส.บีถูก 4 ทรชนชาย อายุระหว่าง 20-25 ปี เป็นเพื่อนและญาติๆ ของแฟนหนุ่ม หลอกมอมเหล้าก่อนรุมโทรมตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายน 2566 ที่ผ่านมา แจ้งความ สภ.ห้วยแถลง แต่คดีไม่คืบหน้า หนำซ้ำยังได้รับการข่มขู่คุกคามทำให้หวาดกลัว คิดสั้นฆ่าตัวตายหลายครั้ง จนต้องร้องเรียนผ่านเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 6 กับรายการโหนกระแส และต่อมา นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยผู้เสียหายให้ได้รับความยุติธรรมโดยเร็ว ตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุด นายสวาท ฦาชา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครรราชสีมา (สพม.นครราชสีมา) ได้มอบหมายให้ ว่าที่ ร.ต.ภควัต อยู่พร้อม รอง ผอ.สพม.นครราชสีมา พร้อมด้วย ผอ.กลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา เจ้าหน้าที่ศูนย์ความปลอดภัย และนิติกร ลงพื้นที่ติดตามเหตุการณ์ล่วงละเมิดทางเพศและตรวจสอบข้อเท็จจริงที่โรงเรียนเกิดเหตุ
จากการพูดคุยทำความเข้าใจระหว่างผู้บริหารโรงเรียน คณะครู เด็กผู้เสียหาย และผู้ปกครอง เบื้องต้นทราบว่าเป็นเรื่องของการสื่อสารที่ไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน ทางผู้ปกครองไม่ติดใจเอาความ พร้อมฝากทางโรงเรียนดำเนินการสอบสวนนักเรียนบางรายที่มีพฤติกรรมการบูลลี่ในโรงเรียนด้วย หลังจากมีการไหว้วานจากกลุ่มผู้กระทำความผิดให้นำข่าวมาปล่อยในโรงเรียน จนทำให้ผู้เสียหายได้รับความอับอาย ไม่สามารถไปเรียนต่อได้ และเกิดเป็นความเครียดสะสม คิดสั้นจะฆ่าตัวตายหลายครั้ง โดยหลังจากนี้เด็กผู้เสียหายจะได้ทำเรื่องขอย้ายสถานที่เรียน พร้อมขอเรียนออนไลน์จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้รับการประสานจากอัยการจังหวัดพิมาย หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยแถลงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 มาส่งฟ้องแล้วเป็นที่เรียบร้อย โดยอัยการจังหวัดพิมายขอให้ผู้เสียหายเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อเขียนคำร้องประกอบการส่งฟ้อง และจัดหาทนายอาสาช่วยเหลือทางคดี เพราะทราบว่า ครอบครัวผู้เสียหายไม่มีทุนทรัพย์เพียงพอว่าจ้างทนาย
นางนลิน โรจนวัทธิกร เจ้าหน้าที่องค์กรช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติ (NRO) ซึ่งได้รับมอบอำนาจจากครอบครัวผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ในชั้นศาลผู้ก่อเหตุได้กลับคำให้การปฏิเสธขอสู้คดี แต่ยังมีความประสงค์จ่ายเงินเยียวยาอยู่เช่นเดิมตามที่ตกลงกันแต่แรก ซึ่งทางอัยการและผู้เสียหายได้ยื่นคัดค้านการประกันตัว แต่ดุลยพินิจของศาลเห็นว่ายังไม่เข้าข่าย จึงพิจารณาให้ประกันตัวได้ แต่ให้ติดกำไล EM โดยมีข้อแม้ว่า ห้ามเข้าใกล้ผู้เสียหายในระยะ 1 กิโลเมตร
ขณะที่ทางผู้เสียหายยังรู้สึกกังวลเรื่องความปลอดภัย จึงประสานให้เจ้าหน้าที่องค์กร NRO ลงพื้นที่เพิ่มเติมเพื่อคุ้มครองความปลอดภัย จนกว่าจะมีการตัดสินพิจารณาคดีแล้วเสร็จ และแน่ใจว่าครอบครัวผู้เสียหายปลอดภัย สามารถใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างปกติสุข ซึ่งถือว่าคดีดำเนินการไปได้อย่างรวดเร็วยิ่งกว่าจรวดทางเรียบแล้วในขณะนี้
