ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - นักเรียนหญิงวัย 16 ปีถูกรุมโทรม หลังคดีผ่านมากว่า 3 เดือนไม่มีอะไรคืบหน้า ครอบครัวต้องร้องสื่อช่วย ด้าน ผอ.โรงเรียนออกตัว ไม่อยากเป็นข่าวดังกลัวเกิดผลกระทบต่อเด็ก ขณะที่ตำรวจสรุปสำนวนคดีส่งให้อัยการแล้ว
ความคืบหน้ากรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 6 ได้โพสต์รูปภาพ และข้อความระบุว่า พม.จว.นครราชสีมาทราบเรื่องนี้หรือยัง สื่อสังคมข่าวช่วยตามประเด็นให้ด้วย นครราชสีมา อำเภอห้วยแถลง (มีเอกสารใบแจ้งความ ใบตรวจร่างกาย สภาพจิตใจ) อัปเดตครับ วันนี้น้องคิดสั้นกรีดแขนตัวเอง บ่นไม่อยากอยู่แล้ว น้องบอกน้องเหนื่อย น้องไปเรียนวันนี้ ครูกับ ผอ.พูดไม่อยากให้น้องร้องสื่อ กลัวเสียชื่อเสียงโรงเรียน น้องกลับบ้านมาเครียดมากๆ น้องร้องไห้ไม่หยุด ถูกกดดันหลายทาง ตอนนี้ตัวน้องและแม่เครียดมากๆ ทางผู้ต้องหาน่าจะแจ้งทางโรงเรียนว่าน้องจะร้องสื่อ ผอ.กับครูเลยเรียกน้องเข้าห้องปกครองไปคุย
คดี 4 ผู้ต้องหาอายุ 20-27 โทรมเด็กหญิงอายุ 16 ปี เหตุเกิดตั้งแต่ 28 เมษายน ผู้ต้องหารับสารภาพหมด ตำรวจไม่จับบอกว่าไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จนถึงทุกวันนี้ ยังตั้งวงดื่มเหล้าน้ำท่อมกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น (ผู้ต้องหาอยู่ละแวกบ้านน้องผู้เสียหาย) แถมญาติและพ่อแม่ฝั่งผู้ต้องหาคุกคามจนน้องผู้เสียหายเข้าโรงพยาบาลไปเป็นเดือนๆ ออกมายังมายั่วยุพูดจาถากถาง แถมขู่จ้างทนายฟ้องกลับเพราะทำให้อับอาย พี่สาวหนึ่งในผู้ต้องหา พูดลั่นต่อหน้าผู้ใหญ่บ้าน นักข่าวสำนักไหนก็เอามาเลยไม่กลัว
แถมชี้หน้าด่าน้องผู้เสียหายว่า นักข่าวมา น้องคงไม่อายหรอก น้องหน้าด้าน แถมใช้ให้คนเอาเรื่องที่น้องโดนไปปล่อยข่าวที่โรงเรียนอีก นี่แค่เรื่องคร่าวๆ นะครับ เพราะเรื่องเกิดตั้งแต่เมษาฯ ตำรวจไม่ควบคุมตัว จึงทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย ทุกวันนี้แม่กับน้องผู้เสียหายได้ย้ายบ้านหนีแทนแล้วนะครับโปรดพิจารณา
ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ (30 ส.ค.) เจ้าหน้าที่องค์กรช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติ หรือ NRO ได้พาเด็กหญิงผู้เสียหาย พร้อมด้วยแม่ของเด็ก เดินทางไปที่ สภ.ห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อเข้าพบกับ พ.ต.อ.สิทธิพล ทิมสูงเนิน ผู้กำกับการ สภ.ห้วยแถลง ที่ห้องทำงานเพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดี
พ.ต.อ.สิทธิพล ทิมสูงเนิน ผู้กำกับการ สภ.ห้วยแถลง เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเรื่องขึ้น ทางครอบครัวของเด็กหญิงผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ฯ ได้รวบรวมพยานหลักฐาน และได้แจ้งดำเนินคดีข้อกล่าวหาต่อ 4 ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุแล้ว และพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนคดีส่งเรื่องอัยการพิจารณาไปแล้วตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของอัยการ ส่วนกลุ่มผู้ต้องหาทราบว่าขณะนี้ได้มีการประกันตัวออกไปสู้คดี
อย่างไรก็ตาม การที่มีข่าวว่าครอบครัวของกลุ่มผู้ต้องหาได้มีการพูดจาเสียดสีหรือข่มขู่ครอบครัวของเด็กหญิงผู้เสียหายนั้น ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปพูดคุยกับครอบครัวของกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งหากทางครอบครัวของกลุ่มผู้ต้องหายังไม่หยุดพฤติกรรมดังกล่าว ทางตำรวจจะพิจารณาทำเรื่องขอถอนประกันตัวผู้ต้องหาต่อไป
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามไปยังนายอิสรา รักชาติ ผู้อำนวยการโรงเรียนนิคมศึกษา ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เด็กหญิงผู้เสียหายเรียนอยู่ สอบถามกรณีที่มีข่าวว่าทางโรงเรียนไม่อยากให้ครอบครัวเด็กหญิงเป็นข่าวดังเพราะกลัวเสียชื่อเสียงของโรงเรียนนั้น ทาง ผอ.โรงเรียนชี้แจงว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทางโรงเรียนไม่ได้กลัวเสียชื่อเสียงของโรงเรียนแต่อย่างใด แต่ทางโรงเรียนไม่อยากให้เป็นข่าวดังแพร่หลาย โดยเฉพาะการออกสื่อต่างๆ เพราะกังวลว่าข่าวที่ออกไปจะส่งผลกระทบต่อตัวของเด็กหญิงผู้เสียหายเอง ทั้งกับกลุ่มเพื่อนในโรงเรียน และสังคมภายนอก
ซึ่งหลังเกิดเรื่องขึ้นทางโรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจ ให้ความสนับสนุนช่วยเหลือครอบครัวของเด็กทุกอย่าง โดยได้สอบถามความคืบหน้ากับทางครอบครัวเด็กเรื่อยมา ทางโรงเรียนอยากให้กระบวนการทางกฎหมายลงโทษกลุ่มผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด ขอยืนยันว่าทางโรงเรียนพร้อมให้ความช่วยเหลือตัวเด็กหญิงผู้เสียหาย และครอบครัวของเด็กอย่างดีที่สุด
