เชียงราย - ตำรวจหิ้วลูกทรพีดำเนินคดีขั้นสุด..หลังผลาญเงินส่วนแบ่งพ่อแม่ถูกหวยรางวัลที่ 1 เกลี้ยง ล่าสุดเสพยาเสร็จตามขอเงินซื้อยาเสพติดอีก 150,000 บาท พอไม่ได้กลับใช้มีดข่มขู่บุพการี สอบประวัติพบเคยโดนจับฐานมีอาวุธปืนในครอบครองซ้ำ
วันนี้ (17 ส.ค. 66) พล.ต.ต.ดุลเดชา อาชวะสมิตระกูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์ ไชยบาล รอง ผบก. และ พ.ต.อ.นฤทธิ์ เกิดดี ผกก.สภ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายสุทธิพงษ์ อายุ 41 ปี ชาวบ้าน ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า ดำเนินคดีในข้อหา "ข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใด โดยมีอาวุธหรือร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป"
การจับกุมดำเนินคดีผู้ต้องหารายนี้มีขึ้นหลังจากได้รับแจ้งว่านายสุทธิพงษ์ก่อเหตุใช้มีดข่มขู่พ่อและแม่ในวัยชรา เพื่อขอเงินไปซื้อยาเสพติดมาเสพ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน ยื่นศาลแขวงเวียงป่าเป้าออกหมายจับเลขที่ 26/2566 ลงวันที่ 16 ส.ค. 2566 ให้จับกุมตัวนายสุทธิพงษ์
จากนั้นได้นำหมายศาลติดตามจับกุมนายสุทธิพงษ์ที่บ้าน แต่ไม่พบตัว ต่อมาภรรยาของนายสุทธิพงษ์ได้นำตัวสามีเดินทางไปมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ สภ.เวียงป่าเป้า ซึ่งเจ้าตัวให้การรับสารภาพพร้อมระบุว่าก่อนหน้านี้ได้เสพยาบ้าไป 1 เม็ดครึ่ง เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปตรวจหาสารเสพติดต่อที่โรงพยาบาลเวียงป่าเป้าพบปัสสาวะมีค่ายาเสพติดปริมาณมากจริงจึงได้ควบคุมตัวดำเนินคดี
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมระบุว่าเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน พ่อและแม่ของนายสุทธิพงษ์ถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 ได้เงินมาจำนวน 12 ล้านบาท จึงได้นำไปแจกจ่ายให้ลูกหลายคน รวมทั้งนายสุทธิพงษ์ด้วย แต่นายสุทธิพงษ์มีพฤติกรรมเสพยาเสพติดทำให้เงินหมด
ล่าสุดจึงไปขอเงินกับพ่อแม่เพิ่มอีก 150,000 บาท แต่ถูกปฏิเสธโดยพ่อแม่บอกว่าได้นำเงินไปซื้อที่ดินและใช้จ่ายหมดแล้ว ทำให้นายสุทธิพงษ์โกรธและก่อเหตุข่มขู่ดังกล่าว
ทั้งนี้ เมื่อเดือน ก.ค. 2566 นายสุทธิพงษ์ยังเคยถูกจับกุมในข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองจนผู้เป็นแม่ต้องไปประกันตัวมาครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อถูกจับกุมอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ยื่นถอนประกันตัวในคดีเดิมด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้เพจ "กัน จอมพลัง" ได้เผยแพร่ข้อความซึ่งมีเนื้อหาว่าผู้ก่อเหตุได้เข้าไปกราบเท้าพ่อและแม่แล้ว หลังจากตนได้โทร.แจ้งพี่นัส และพี่นัสประสาน ผกก.ภ.จว.เชียงราย และรอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย นำกำลังไปจับกุมเพื่อช่วยเหลือพ่อแม่รายนี้ในที่สุด ซึ่งหลังถูกจับกลับเป็นคนละคนโดยก้มกราบไหว้เท้าพ่อแม่ จึงขอขอบคุณ พล.ต.ต.ดุลเดชา ท่านธรรมนัส พรหมเผ่า (ผู้ประสาน) และ พ.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์ ด้วย
