พิษณุโลก - คืบหน้าปฏิบัติการค้นหาหนุ่มพิการทางสมองวัย 17 หลงป่าเขาทรงยายอึ่ง-ทุ่งแสลงหลวง ตั้งแต่ 9 กันยาฯ ยังไร้วี่แววเจอตัว..ตำรวจแก่งโสภา สอบพรานคนนำพาหาเบาะแสเพิ่ม ก่อนระดมกำลังลุยหาพรุ่งนี้ (14 ก.ย.) ต่ออีก
ความคืบหน้ากรณี นายวีระยุทธ ยาบูช หรือนายสาม หนุ่มผู้พิการทางสมอง อายุ 17 ปี ที่ขึ้นไปหาของป่าบน "เขาทรงอ้ายอึ่ง" ทุ่งแสลงหลวง บ้านป่ามะกูด ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก พร้อมกับนายประมาณ ขุนชัย อายุ 50 ปี ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย. 66 แล้วหายตัวไปรวม 4 วัน ล่าสุดหลังมีการระดมกำลังค้นหาทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศ จนถึงเย็นวันนี้ (13 ก.ย. 66) ก็ยังไม่พบตัวแต่อย่างใด
ขณะที่ พลตรี ทวีศักดิ์ วงศ์ทวีทรัพย์ ผู้บัญชาการกองพลพัฒนาที่ 3, นายวาทิต ปัญญาคม รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก, นายธีรสิทธิ์ วงศ์วาน ผอ.ทสจ.พิษณุโลก, นายโกเมศ พุทธสอน ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 11 พิษณุโลก, พ.ต.อ.วัฒนกร อู่นาทผกก.สภ.แก่งโสภา เดินทางมาร่วมประชุมแผนการค้นหาคนหลงป่า ที่ศูนย์ปฏิบัติการค้นหา โรงเรียนป่ามะกูด หมู่ 11 บ้านป่ามะกูด ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง
เบื้องต้นกำหนดแผนเดินหน้ากระดานต่อเช้าพรุ่งนี้ (14 ก.ย.) โดยจะใช้กำลังทหารจาก พล.พัฒนาที่ 3 กว่า 24 นาย และเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า สบอ.11 กรมอุทยานฯ อีก 24 คน และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 จำนวน 12 คน รวมเป็น 60 คน เดินปูพรมค้นหานายวีระยุทธ สมทบกับกำลังป่าไม้ อุทยานฯ กู้ภัยประสาทบุญสถานและชาวบ้าน รวม 24 คน ที่ลุยค้นหากันในวันนี้ (13 ก.ย.) ตลอดทั้งวันและนอนค้างแรมเพื่อรอค้นหาต่อ จากจุดลานหิน หรือลานบิน ถัดออกไปจุดหาของป่า คือต้นก่อ บริเวณ "เขาทรงอ้ายอึ่ง"
นายสมพงษ์ หอมสนิท นายอำเภอวังทอง เปิดเผยว่า ผู้ว่าฯ ได้มอบหมายให้ตนเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ในพื้นที่ วันนี้ได้ประชุมซักซ้อมความเข้าใจ พรุ่งนี้จะสนธิกำลังป่าไม้ อุทยานฯ ปกครอง ฯลฯ เพิ่มเติมอีกรอบ ส่วนนายประมาณที่ลงจากเขามานั้นให้การเป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีการแยกกับผู้หลงป่าบริเวณใดแล้ว
นายโกเมศ พุทธสอน ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 เผยว่า ในฐานะเจ้าของพื้นที่ คือ อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ได้ส่งกำลังพิทักษ์ป่าพร้อมชุดร่มบินพารามอเตอร์ ร่วมค้นหาต่อเนื่อง และพรุ่งนี้ (14 ก.ย.) จะจัดส่งกำลังเสริมอีก 24 นาย พร้อมจะระดมกำลังหน่วยข้างเคียงเข้ามาเสริมอีก ขอแจ้งเตือนว่าผู้ที่เดินทางเข้าป่าในเขตอุทยานฯ จะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่และเคารพต่อกฎหมายอุทยานแห่งชาติด้วย เพราะหากเกิดอะไรขึ้นอาจช่วยไม่ทัน
จนท.พิทักษ์ป่า อช.ทุ่งแสลงหลวง หนึ่งในทีมค้นหา เปิดเผยว่า สภาพผืนป่าที่เดินทางเข้าไปค้นหานายวีระยุทธ เต็มไปด้วยป่ารกชัฏ ลาดชันเอียง 45 องศา และมีลำห้วย ซึ่งระดับน้ำค่อนข้างมากในบางจุด เนื่องจากฝนตกต่อเนื่อง กลางคืนอากาศหนาวเย็น หลายคนแทบนอนไม่ได้เนื่องจากมีทั้งร่องรอยช้างป่า กระทิง หมูป่า ฯลฯ อย่างไรก็ตาม หากผู้สูญหายยังอยู่ในเขาทรงอ้ายอึ่งก็เชื่อว่าจะหาพบแน่นอน
ด้านนายทองเกียน ยาบูช พ่อของนายวีระยุทธ ผู้สูญหาย บอกว่าได้ขอเจ้าที่เจ้าทางช่วยให้ลูกปลอดภัยกลับบ้านได้ ซึ่งตนก็ร่วมไปค้นหา แต่ก็ยังหาไม่พบ และที่สำคัญนายประมาณ คนที่เดินทางไปพร้อมกับลูกตนก็ให้คำตอบไม่ชัดเจน กรณีจุดที่แยกทางกัน
ทั้งนี้ พระปลัดอุดมศักดิ์ หรืออาจารย์ตี๋ รองเจ้าอาวาสวัดท่ามะปราง อ.เมือง พิษณุโลก ในฐานะที่ปรึกษามูลนิธิร่วมกตัญญูพิษณุโลก นอกจากจะส่ง จนท.มูลนิธิฯ ร่วมค้นหาแล้ว ยังได้นำสิ่งของอุปโภคบริโภคจำนวนหนึ่งมามอบให้ทีมค้นหา และได้จัดเตรียมอาหารสดเพื่อเป็นเสบียงให้ทีมงานชุดค้นหาในวันพรุ่งนี้ด้วย
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมด้วยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ สภ.แก่งโสภา ได้นำตัวนายประมาณ ขุนชัย อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นคนที่พานายวีระยุทธขึ้นไปหาของป่า ก่อนแยกตัวกลับก่อน ไปสอบอย่างละเอียดถึงจุดที่แยกทางและปัญหาความขัดแย้งต่างๆ ซึ่งยังไม่พบพิรุธใดๆ แต่ จนท.ได้ไปค้นอาวุธปืนลูกซองที่ซุกซ่อนไว้ที่ห้างนา (หลังบ้านพัก) และเตรียมไปหาปืนแก๊ปอีก 1 กระบอก ที่ซุกซ่อนบนเขาทรงอ้ายอึ่ง เพื่อตรวจสอบด้วย
