ศูนย์ข่าวขอนแก่น - เปิดตัว ครัวภูพานเฮ ออนไลน์ ครัวไทยสู่โลก เน้นการทำอาหารที่ทำจากวัตถุดิบจากส่วนต่างๆของต้นภูพานเฮ พืชเศรษฐกิจทางอาหารตัวใหม่ที่น่าจับตามอง ประโยชน์ทางโภชนาการสูงราคาขายค่อนข้างแพง ปัจจุบันมีเกษตรกรทั่วประเทศปลูกร่วม 500,000 ต้น เดินหน้าขยายเครือข่ายผู้ปลูกให้เพิ่มมากขึ้นเพื่อป้อนอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม
ก่อนเที่ยงวันนี้ (9 ก.ย.) ที่ครัวภูพานเฮ ออนไลน์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ดร.กฤษดา จักรเสน ประธานบริษัทภูพานเฮ 2021 (ไทยแลนด์) จำกัด นายโกศล เทพมณี รองประธานบริษัทภูพานเฮ 2021 (ไทยแลนด์) จำกัด พร้อมด้วย น.ส.ชลดา อะระอิ ร่วมกันเปิด ครัวภูพานเฮออนไลน์ ครัวไทยสู่โลก ในงานมีสาธิตการทำอาหารทั้งของคาว ของหวาน และเครื่องดื่มที่ทำจากผลและยอดของต้น “ภูพานเฮ” โดยเชฟที่มากประสบการณ์ ในโอกาสเดียวกันทั้ง ดร.กฤษดา และนายโกศล ได้ร่วมโชว์การทำอาหารจานเด็ดที่มีส่วนประกอบจากส่วนของหน่อภูพานเฮด้วยเช่นกัน คือ แกงไตปลา และไข่เจียว
ทั้งสื่อมวลชนและแขกวีไอพีที่ร่วมงานต่างประหลาดใจกับอาหารเมนูต่างๆ ที่มีภูพานเฮ (พืชตระกูลปาล์ม) เป็นวัตถุดิบหลักเป็นอย่างมาก ภูพานเฮที่หั่นพอดีคำมีความกรุบกรอบ มีความหวานมันที่พอดี ถือเป็นวัตถุดิบอาหารที่แปลกใหม่และอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ทั้งโปรตีนและวินามินอี วิตามินเอ การเปิดตัวครัวภูพานเฮครั้งนี้ได้ไลฟ์ผ่านเพจ Facebook ของครัวภูพานเฮด้วย
ดร.กฤษดา จักรเสน ประธานบริษัทภูพานเฮ 2021 (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า “ภูพานเฮ” เป็นพืชในแถบละตินอเมริกา ได้นำมาวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ในเมืองไทย ราวปี 2555 จนได้สายพันธุ์ใหม่ลำต้นไร้หนามในชื่อภาษาไทยว่าภูพานเฮ และเป็นสายพันธุ์ที่เราส่งเสริมให้ปลูกทั่วประเทศ เป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ใช้ประโยชน์ทางอาหารได้ทั้งต้น มีศักยภาพสูงสำหรับแปรรูปอาหารและเครื่องดื่มในอนาคตที่เข้าสู่แผนแพลนต์เบส (Plant Based) ของโลก ขณะนี้ทางบริษัทฯ ได้ขยายเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาดผู้บริโภค
“ภูพานเฮ เป็นหนึ่งในนวัตกรรมอาหารของไทยที่น่าสนใจ เป็นพืชอาหารของโลกอนาคต จุดเด่นของภูพานเฮ คือ ใช้ทำอาหารได้ทุกส่วน ทั้งราก ลำต้น ดอก ผล แปรรูปเป็นอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพได้หลากหลาย รู้จักเขามากเท่าไหร่ก็จะยิ่งหาประโยชน์จากเขาได้มากขึ้น ถือเป็นพืชมหัศจรรย์ที่ทุกบ้านควรปลูกไว้ อย่างน้อยใช้ทำอาหาร ปลูกได้มากก็ขาย ราคาค่องข้างสูง” ดร.กฤษดากล่าว และว่า
ปัจจุบันทั่วประเทศมีเกษตรกรปลูกต้นภูพานเฮแล้วประมาณ 5 แสนต้น แต่ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับการที่จะนำมาแปรรูปในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ไม่ว่าจะเป็นผลหรือยอดหรือหน่อ สำหรับราคาในตอนนี้เป็นราคาที่ดีมาก เช่น ยอดของต้นขนาด 10 เซนติเมตรขึ้นไป ราคาอยู่ที่ยอดละ 500 บาทเป็นอย่างต่ำ ส่วนผลตอนนี้แบบไร้เมล็ดกิโลกรัมละ 750 บาท และแบบมีเมล็ดราคาอยู่ที่ 1,000-1,500 บาท ซึ่งเมล็ดสามารถนำไปเพาะปลูกขยายพันธุ์ได้ เราสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจแห่งอนาคตเพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคง ปลูกทดแทนกับพืชชนิดอื่นที่ราคาไม่แน่นอน ปลูกภูพานเฮสามารถเก็บเกี่ยวได้ตลอดปี
ด้าน น.ส.ชลดา อะระอิ เจ้าของครัวภูพานเฮออนไลน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ครัวภูพานเฮออนไลน์ที่เปิดตัวในครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะช่วยกระตุ้นให้ภูพานเฮเป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้น เป็นช่องทางสื่อสารทางการตลาดกับผู้บริโภคและเกษตรกรที่อยากจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการปลูกภูพานเฮป้อนให้กับทางบริษัทฯ ต้องยอมรับว่าการสื่อสารผ่านสื่อออนไลน์กำลังเป็นที่นิยมและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดี ตามแผนที่วางไว้ครัวภูพานเฮจะไลฟ์การทำอาหารเมนูต่างๆ ที่มีภูพานเฮเป็นวัตถุดิบหลัก อยากให้เห็นคุณประโยชน์ของภูพานเฮพืชมหัศจรรย์ทางอาหาร
นอกจากทางครัวจะไลฟ์การทำอาหารโชว์และเปิดรับออเดอร์แล้ว เรายังเปิดช่องทางสื่อสารในแพลตฟอร์ม TikTok, YouTube, LINE, Website อีกด้วย ยังมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ไม่รู้จักต้นภูพานเฮ ครัวภูพานเฮออนไลน์จะตอบทุกคำถามเกี่ยวกับต้นภูพานเฮ
“ครัวออนไลน์ของเราจะให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องผลผลิต มีประโยชน์อย่างไร ทำอะไรได้บ้าง ช่วงแรกอาจจะเน้นเรื่องการทำอาหารในครัวเรือนและการทำอาหารแนวสร้างรายได้สร้างอาชีพ สอนการทำอาหารฟรี มีคอร์สอาหารให้เลือกเรียนรู้หลากหลายเมนู ครัวภูพานเฮออนไลน์จะเคียงคู่ไปกับต้นภูพานเฮ สวนต้นแบบของภูพานเฮอยู่ที่สกลนคร กำลังเป็นที่รู้จักไปทั่วไทยและอีกไม่นานจะขยายไปทั่วโลก” น.ส.ชลดากล่าวทิ้งท้าย