แม่ฮ่องสอน - พายุฝนกระหน่ำแม่ฮ่องสอนหนัก..น้ำป่าหลากทะลักลงดอยกลางดึก ชาวบ้านขนของหนีน้ำกันไม่ทัน แถมหญิงโชคร้ายถูกน้ำพัดหายไปไม่ทราบชะตากรรม สะพานซูตองเป้กระทบด้วย เจ้าหน้าที่ต้องระดมความช่วยเหลือกันโกลาหล
วันนี้ (9 ก.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พายุฝนที่ตกติดต่อกันมา 2 วันทำให้เกิดน้ำป่าจากยอดดอยด้านทิศตะวันออกของหมู่บ้านหลากทะลักเข้าพื้นที่ตำบลห้วยผา และตำบลหมอกจำแป่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน เมื่อเวลา 01.00 น.เศษที่ผ่านมา ทำความเสียหายแก่บ้านเรือนของชาวบ้านอย่างหนัก
โดยเฉพาะที่ในพื้นที่หมู่ที่ 1 และ 2 ของตำบลห้วยผานั้น กระแสน้ำป่าพัดพาเอาเศษซากของหิน ดิน ต้นไม้ขนาดใหญ่ เข้าท่วมทางหลวงหมายเลข 1095 ตั้งแต่หน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำปลาไปเป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร ทำให้ที่ทำการของจุดตรวจหน้าถ้ำปลาและภายในของอุทยานแห่งชาติถ้ำปลาได้รับความเสียหายทั้งอาคารที่ทำการ ข้าวของเครื่องใช้ของสำนักงาน บ้านพักและรถยนต์ของทางราชการถูกน้ำพัดหายไป 2 คัน
ส่วนกระแสน้ำป่าที่หลากเข้าไปยังหมู่บ้านนั้นก็ทำให้รถยนต์ของชาวบ้านได้รับความเสียหายไป 3 คัน รวมถึงข้าวของและสัตว์เลี้ยงที่ถูกกระแสน้ำพัดหายไปอย่างไม่ทันตั้งตัวเพราะเป็นช่วงกลางดึกด้วย
นายเรืองฤทธิ์ ผลดี หัวหน้าสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน ต้องนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ท่ามกลางฝนที่ยังคงตกลงมาอย่างหนัก เวลาเดียวกันก็มีชาวบ้านมาแจ้งขอความช่วยเหลือว่ามีผู้หญิงเคราะห์ร้ายรายหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์พยายามฝ่ากระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว แต่รถเกิดดับแล้วถูกกระแสน้ำพัดหายไปอย่างรวดเร็ว แม้ว่าทางเจ้าหน้าที่และชาวบ้านจะพยายามร่วมระดมกันค้นหาแต่ก็ยังไม่พบและไม่ทราบชะตากรรม
จากการสอบถามก็ยังไม่ทราบว่าผู้หญิงคนดังกล่าวเป็นใครหรือเดินทางมาจากไหน เพราะในช่วงเวลาที่เกิดเหตุผู้คนกำลังวุ่นวายอยู่กับการขนย้ายข้าวของหนีน้ำกันอยู่ ก็มีชาวบ้านตะโกนว่ากระแสน้ำแรง แต่หญิงคนดังกล่าวอาจจะไม่ได้ยินจึงขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำจนสูญหายไปดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะจัดชุดค้นหากันอีกครั้งในช่วงเช้าของวันนี้
นอกจากนี้ ยังมีรายงานด้วยว่าน้ำป่าหลากทะลักครั้งนี้ยังสร้างความสูญเสียแก่วัดภูสมะณารามอีกครั้ง หลังจากระดับน้ำแม่น้ำแม่สะงีและแม่สะงาไหลบ่าเข้าท่วมทุ่งนาที่รายล้อมตัวสะพานซูตองเป้ หรือสะพานอธิษฐานสู่ความสำเร็จ ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของการท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอน ถูกกระแสน้ำได้พัดพาเอาตัวสะพานไม้ไผ่ที่ทอดยาวเชื่อมต่อวัดกับหมู่บ้านที่ยาวกว่า 800 เมตรพังเสียหาย สร้างความเสียใจแก่บรรดาญาติโยมที่กำลังมาช่วยกันจัดเตรียมพิธีสืบชะตาหลวงในวันเสาร์ที่ 9 เดือน 9 นี้ นอกจากนี้ยังมีร้านค้าร้านอาหารและร้านจำหน่ายของที่ระลึกที่บริเวณสะพานก็ได้รับความเสียหายไปตามๆ กัน