xs
xsm
sm
md
lg

ศาลฎีกาสั่งจำคุก "บัลลังก์ อรรณพพร" อดีต ส.ส.เพื่อไทย พร้อมอดีต ผอ.ร.ร.แก่นนคร-ร.ร.กัลยาณวัตรและพวก เอี่ยวย้าย ผอ.ขอนแก่นวิทย์มิชอบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวขอนแก่น - สู้กันนาน 8 ปีคดีสั่นสะเทือนวงการการศึกษาไทย กรณีฟ้องร้องการแต่งตั้งผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อดัง ร.ร.ขอนแก่นวิทยายน โดยมิชอบด้วยกฎหมาย เมื่อปี 2558 ล่าสุดศาลฎีกาสั่งจำคุกอดีต ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย พร้อมอดีตผู้บริหาร ร.ร.แก่นนคร-กัลป์ยาณวัตรพร้อมพวกรวม 14 ชีวิตที่มีเอี่ยวกับการโยกย้าย สั่งขังคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 1 ปี 6 เดือนโดยไม่รอลงอาญา


เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (7 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 2 ศาลคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้อ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อท.51/2562 คดีหมายเลขแดงที่ 24/2563 ระหว่าง นายมีศิลป์ ชินภักดี โจทก์ กับนายกิตติ บุญเชิด จำเลยกับพวก รวม 14 คน โดยจำเลยปฏิบัติหน้าที่กรรมการประเมินศักยภาพผู้ขอย้าย/กรรมการกลั่นกรองการย้าย และ อ.ก.ค.ศ. สพม.25 ขอนแก่น โดยมิชอบ กรณีโจทก์ยื่นคำร้องขอย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน เมื่อปี 2558

คดีนี้ตามศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 23 มี.ค. 2563 พิพากษาลงโทษจำคุก 6 ปี นายกิตติ บุญเชิด พิพากษาจำคุก 3 ปี นายเกียรติศักดิ์ หอมพิกุล, นายวีระเดช ซาตา, นายบัลลังก์ อรรณนพพร อดีต ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย, นายสุรินทร์ หล้าหา, นายลิขิต เพชรผล, ว่าที่เรืออากาศตรี เจริญ สุขทรัพย์, พ.ต.อ.เสถียร ชัยสงคราม และนายมาโนช ฝั้นฉิม และพิพากษาจำคุก 2 ปี นางกรรณิกา ศรีสัตย์รสนา, นายภูวดล หมื่นสีพรหม, นายสุนันท์ คำจันทร์, นายสมเกียรติ ศรีโนนชัย และพิพากษายกฟ้องนายยุทธศาสตร์ กงเพชร นั้น

ต่อมาจำเลยได้อุทธรณ์คำพิพากษา และศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2564 ดังนี้ จำคุก 1 ปี 6 เดือน นายกิตติ บุญเชิด, นายเกียรติศักดิ์ หอมพิกุล, นายวีระเดช ชาตา, นายบัลลังก์ อรรณนพพร ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย, นายสุรินทร์ หล้าหา, นายลิขิต เพชรผล, ว่าที่เรืออากาศตรี เจริญ สุขทรัพย์ และพ.ต.อ.เสถียร ชัยสงคราม และจำคุก 1 ปี นางกรรณิกา ศรีสัตย์รสนา, นายภูวดล หมื่นสีพรหม, นายสุนันท์ คำจันทร์, นายสมเกียรติ ศรีโนนชัย และนายมาโนช ฝั้นฉิม โดยไม่รอลงอาญา


ทั้งนี้ จำเลยได้อุทธรณ์คำพิพากษา และล่าสุดวันนี้ศาลฎีกานัดอ่านคำพิพากษา โดยพิพากษาแก้เป็นว่า ลดโทษให้จำเลยที่ 6-ถึงที่ 12 และที่ 14 คนละหนึ่งในสาม ตามประมวลฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกคนละ 12 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ดังนี้ จำคุก 1 ปี 6 เดือน นายกิตติ บุญเชิด, นายเกียรติศักดิ์ หอมพิกุล, นายวีระเดช ชาตา, นายบัลลังก์ อรรณนพพร อดีต ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย, นายสุรินทร์ หล้าหา และจำคุก 1 ปี นางกรรณิกา ศรีสัตย์รสนา, นายภูวดล หมื่นสีพรหม, นายสุนันท์ คำจันทร์, นายสมเกียรติ ศรีโนนชัย และนายมาโนช ฝั้นฉิม, นายลิขิต เพชรผล, ว่าที่เรืออากาศตรี เจริญ สุขทรัพย์ และ พ.ต.อ.เสถียร ชัยสงคราม โดยไม่รอลงอาญา

สำหรับคดีนี้ถือเป็นคดีที่กระทบกระเทือนวงการการศึกษาเป็นอย่างมาก เนื่องจากจําเลยแต่ละคนเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในจังหวัดขอนแก่น มีทั้งอดีตผู้อํานวยการโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย คือ นายวีระเดช ซาตา และ นางกรรณิกา ศรีสัตย์รสนา อดีตผู้อํานวยการโรงเรียนกัลยาณวัตร ส่วนนายกิตติ บุญเชิด จําเลยที่ 1 ซึ่งเป็นชาวอำเภอโนนไทย จ.นครราชสีมา ศาลพิพากษาให้จําคุกถึง 1 ปี 6 เดือน เนื่องจากขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 25 (สพม.25) ต่อมาเกษียณอายุราชการในตำแหน่งผู้อำนวยการ สพม.เขต 31 นครราชสีมา ในขณะที่นายยุทธศาสตร์ กงเพชร คือผู้ที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้อํานวยการโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน (ขณะนั้น) และเป็นที่มาของคดี ขณะนี้เกษียณอายุราชการไปแล้ว ศาลพิพากษายกฟ้อง


คดีอันอื้อฉาวดังกล่าว เริ่มจากนายมีศิลป์ ชินภักดี ขณะนั้นเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนผดุงนารี จังหวัดมหาสารคาม ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองขอนแก่น โดยนายมีศิลป์ บรรยายในคำฟ้องว่า ตนเป็นข้าราชการครู ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนผดุงนารี ได้ส่งคำร้องขอย้ายเพื่อมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนขอนแก่นวิทยายนเมื่อเดือนสิงหาคม 2558 จำเลยทั้ง 14 คนได้ร่วมกันกระทำผิดต่อกฎหมายในข้อหาหรือฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

ต่อมา วันที่ 26 กันยายน 2561 ศาลปกครองขอนแก่นอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดํา ที่ บ.19/2559 คดีหมายเลขแดงที่ บ. 242/2561 ระหว่างนายมีศิลป์ ชินภักดี ผู้อํานวยการโรงเรียนผดุงนารี จังหวัดมหาสารคาม ผู้ฟ้องคดี กับศึกษาธิการจังหวัดขอนแก่น (ผู้อำนวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา เขต 25 เดิม) ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำสั่งโดยมิชอบด้วยกฎหมาย โดยศาลได้พิพากษาว่า การประชุม อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 25 ในการประชุมครั้งที่ 15/2558 เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2558 พิจารณาเห็นชอบการย้ายและแต่งตั้งผู้ดํารงตําแหน่งผู้อํานวยการโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน มีองค์ประชุมไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นเหตุให้คําสั่งสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 25 ที่ 558/2558 ลงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2558 ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ย้ายและแต่งตั้งบุคคลให้ดํารงตําแหน่งดังกล่าว ตามมติในการประชุมครั้งดังกล่าว ที่เห็นชอบให้บุคคลดํารงตําแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวของผู้ถูกฟ้องคดีตามคําขอของผู้ฟ้องคดี


จากนั้นในวันที่ 3 กันยายน 2562 เวลา 09.00 น. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ได้มีคำสั่งถึงกรณีการแต่งตั้งผู้อำนวยการโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน มีความไม่ชอบ ตามคำร้องของนายมีศิลป์ ชินภักดี ว่ามีมูล จึงให้ประทับรับฟ้องคดีหมายเลขดำที่ อท.51/2562 ระหว่าง นายมีศิลป์ ชินภักดี ผู้อำนวยการ โรงเรียนผดุงนารี จังหวัดมหาสารคาม โจทก์ กับนายกิตติ บุญเชิด จำเลยที่ 1 และพวกรวม 14 คน กระทั่งมีคำพิพากษาศาลชั้นต้นของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2563 ลงโทษจำคุกจำเลย 13 คนดังกล่าว สู้คดีกันมาจนถึงชั้นฎีกา

นายบัลลังก์ อรรณพพร อดีต ส.ส.เพื่อไทย (แฟ้มภาพ)


กำลังโหลดความคิดเห็น