ศาลออกหมายจับ-ปรับนายประกัน 1 ล้าน "ผู้กองบอย" อดีตรองสารวัตรสืบ สน.วังทองหลาง เบี้ยวฟังพิพากษาอุทธรณ์ คดียิงเมียดับคาห้องพักย่านแอปปี้แลนด์ ศาลนัดฟังอีกครั้ง 10 ต ค.นี้
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ 7 ก.ย. ที่ห้องพิจารณา 909 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีฆ่าผู้อื่น หมายเลขดำ อ.2353/2563 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ฟ้อง ร.ต.อ.ทรงกลด บุญส่ง หรือ ผู้กองบอย อายุ 32 ปี อดีตรอง สว.สส.สน.วังทองหลาง เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
อัยการโจทก์ฟ้องระบุความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2563 เวลากลางคืน จำเลยได้มีเจตนาฆ่าผู้อื่นโดยใช้อาวุธปืนพกสั้น ขนาด .45 หมายเลขทะเบียน กท. 54289016 ของจำเลย จ่อกดที่ศีรษะน.ส.พิมชฎาพร หรือน้องนิ่ม อายุ 30 ปี ภรรยาซึ่งไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน เพื่อข่มขู่โดยจำเลยย่อมเล็งเห็นได้ว่าหากกระสุนปืนลั่นออกมาจะทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ เป็นเหตุให้มือของผู้ตายไปถูกอาวุธปืนดังกล่าวและทำให้อาวุธปืนลั่นออกมา 1 นัดกระสุนปืนถูกที่ศีรษะของ น.ส.พิมชฎาพร จนถึงแก่ความตาย
เหตุเกิดภายในทาวน์เฮาส์ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร
ขอให้ลงโทษจำเลยความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี คดีเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2565 ศาลอาญาพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานของทั้ง 2 ฝ่ายที่นำสืบแล้ว พิพากษาว่า จำเลยกระทำความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 จำคุก 20 ปี และชดใช้ค่าเสียหาย 720,000 บาท ริบอาวุธปืนของกลาง
ต่อมาศาลอาญาอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยระหว่างอุทธรณ์คดีโดยตีราคาประกันเงินสด 1 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลานัด นายนิติศักด์ มีขวด ทนายความ“ผู้กองบอย” มอบอำนาจให้เสมียนทนายความ มาแจ้งต่อศาลว่ายังไม่สามารถติดต่อกับจำเลยได้ และมีรายงานว่าได้มีการยื่นขอเปลี่ยนหลักทรัพย์ จากโฉนดที่ดินมูลค่าร่วม 18 ล้านบาท เหลือเพียงหลักทรัพย์เงินสดมูลค่า 1 ล้านบาท
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยได้รับหมายเรียกโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ไม่มาศาล โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง หรือร้องขอเลื่อนคดี พฤติการณ์เชื่อว่าจำเลยหลบหนี จึงให้ออกหมายจับจำเลยเพื่อมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ นายประกันทราบนัดโดยชอบแล้ว ไม่ส่งตัวจำเลยตามกำหนด ถือว่าผิดสัญญาประกัน ให้ปรับนายประกันเต็มตามสัญญา 1 ล้านบาท และนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ใหม่ วันที่ 10 ตุลาคมนี้ เวลา 09.00 น.
ภายหลังนางทองใส ภูคงน้ำ มารดาผู้ตาย ซึ่งเป็นโจทก์ร่วมในคดี กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังที่ผู้กองบอย ไม่มาฟังคำพิพากษา เพราะก่อนหน้านี้เคยรับปากกับตนว่า ผมเป็นลูกผู้ชาย ขอรับผิดชอบสิ่งที่กระทำ แต่สุดท้ายก็หายไปเลย ที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกัน ตนติดต่อแต่เพียงหลานสาว ที่ครอบครัวผู้กองบอยรับเอาไปเลี้ยงดู ตนคิดอยู่ว่าวันนี้ถ้าหากหลานสาวเดินทางมาศาลด้วย ก็จะเอาเงินให้ นอกจากนี้ยังไม่ได้รับการเยียวยาจากผู้กองบอย
ขณะที่นายสมัย ภูคงน้ำ น้าชายของ น.ส.พิมชฎาพร ผู้ตาย กล่าวว่า หากผู้กองบอย บริสุทธิ์ใจ เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ก็อยากให้มาศาล ไม่ต้องหนี อะไรที่เคยทำไว้ก็ขอให้รับผลไป