ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ชมรม ร.ร.เอกชนสอนภาษาจีน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ24 องค์กรจีนในขอนแก่น จัดเลี้ยงต้อนรับ ฯพณฯ หลิว หงเหมย กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำจังหวัดขอนแก่น โดยกงสุลใหญ่จีนคนใหม่มั่นใจจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือกับประเทศจีนแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ทั้งยังจะส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาจีนในพื้นที่ภาคอีสานให้ก้าวหน้ารวดเร็ว
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 2 กันยายน 2566 ที่หอประชุมอเนกประสงค์โรงเรียนฮั่วเคี้ยววิทยาลัย อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดงานเลี้ยงต้อนรับกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำจังหวัดขอนแก่น โดยมี ฯพณฯ หลิว หงเหมย กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำจังหวัดขอนแก่น, นายธีรนันท์ บูรณไมตรี ประธานสภาโรงเรียนฮั่วเคี้ยววิทยาลัย ขอนแก่น, นายศิริแก่นศักดิ์ศิริ, นายปกรณ์ ลีศิริกุล, นายประยูร อังสนันท์, นายบูรพา เสรีโยธิน ประธานกิตติมศักดิ์สมาคม 24 องค์กรจีน จังหวัดขอนแก่น, นายวรากร โรจน์จรัสไพศาล ประธานชมรมโรงเรียนเอกชนสอนภาษาจีน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น นายภาคิน ติระพงศ์ไพบูลย์ นายกเทศมนตรีเมืองมหาสารคาม, ท่าน จาง เจีย เจิ้ง ผู้อำนวยการฝ่ายจีน สถาบันขงจื๊อมหาวิยาลัยขอนแก่น, ท่านหลิน เฮ้า เยี่ย ผู้อำนวยการฝ่ายจีน สถาบันขงจื๊อมหาวิทยาลัยมหาสารคาม, ผู้นำ 24 องค์กรจีน จังหวัดขอนแก่น, ประธานคณะกรรมการ และตัวแทนจาก 19 โรงเรียนจีน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ฯลฯ ร่วมงานต้อนรับอย่างอบอุ่น
นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ในนามข้าราชการ และประชาชนชาวขอนแก่น รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ท่านได้มาดำรงตำแหน่งกงสุลใหญ่ ประจำจังหวัดขอนแก่น ไทย-จีน นั้น ได้มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันมาอย่างยาวนาน และนับได้ว่ามีความสัมพันธ์ และความร่วมมือระหว่างมิตรประเทศทั้งสองอย่างแน่นแฟ้นมั่นคงยั่งยืน โดยรัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกันมาโดยตลอด ผู้นำทั้งสองฝ่ายล้วนมีวิสัยทัศน์ที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์และขยายความร่วมมือในรอบด้าน
จึงเชื่อได้ว่าความร่วมมือระหว่างไทย-จีนจะก้าวไปสู่ความเปลี่ยนแปลงในอนาคตอันรุ่งโรจน์พร้อมๆ กันต่อไป และทำให้จังหวัดขอนแก่นเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง จังหวัดขอนแก่นกำลังพัฒนาทุกๆ ด้าน เพื่อให้ก้าวทันและสอดคล้องกับสังคมโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เฉพาะอย่างยิ่งนโยบาย "One belt One Road" ของประเทศจีน การที่ท่านมาประสานสัมพันธ์ไมตรี จึงเกิดประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศอย่างมหาศาล
ด้าน นายธีรนันท์ บูรณไมตรี ประธานสภาโรงเรียนฮั่วเคี้ยววิทยาลัย ขอนแก่น กล่าวเสริมว่า ตั้งแต่สถานกงสุลใหญ่จีน ณ จังหวัดขอนแก่น ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2555 เป็นต้นมา ได้มีกงสุลใหญ่มาทำงานที่ขอนแก่นทั้งหมด 4 ท่าน ทุกท่านให้ความสำคัญและให้การสนับสนุนองค์กรจีน และโรงเรียนจีนในภาคอีสานเป็นอย่างดี ส่งเสริมองค์กร และบริษัทต่างๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีการแลกเปลี่ยนกับองค์กรและบริษัทของประเทศจีน ส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาจีน ช่วยส่งครูสอนภาษาจีนให้กับ 19 โรงเรียนจีนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงทำให้โรงเรียนจีนแต่ละแห่งมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว สิ่งเหล่านี้ทำให้พวกเราที่เป็นชาวจีนโพ้นทะเลรู้สึกซาบซึ้ง และมีความภูมิใจเป็นอย่างมาก
ขณะที่ ฯพณฯ หลิว หงเหมย กงสุลใหญ่จีน ประจำจังหวัดขอนแก่น ระบุว่า ตนเพิ่งเดินทางมาถึงจังหวัดขอนแก่นเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม คณะตัวแทนของสมาคม 24 องค์กรจีนจังหวัดขอนแก่น ได้เดินทางมาต้อนรับถึงสนามบินด้วยความกระตือรือร้นของทุกท่าน ทำให้รู้สึกได้ถึงความอบอุ่น ก่อนที่จะมาถึงจังหวัดขอนแก่น ตนได้รับรู้จากช่องทางต่างๆ เกี่ยวกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยว่ามีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ประชาชนในท้องถิ่นมีความเป็นมิตรต่อประชาชนชาวจีน ภายใต้การนำของส่วนราชการต่างๆ และผู้คนทุกสาขาอาชีพ ได้ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนงานของสถานกงสุลใหญ่จีนอย่างเต็มที่
"โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดิฉันรู้สึกประทับใจกับกิจกรรม การกุศลของชาวจีนโพ้นทะเลจำนวนมาก และความรักอันแรงกล้าที่พวกเขามีต่อมาตุภูมิและบรรพบุรุษของพวกเขา"
คณะชาวจีนโพ้นทะเลในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยได้ทำงานร่วมกันกับกงสุลใหญ่จีนมาโดยตลอด ลงเรือลำเดียวกันเพื่อฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ไปด้วยกัน ในการเฉลิมฉลองวันชาติและเทศกาลตรุษจีน เมื่อครั้งที่ผ่านมา ทุกท่านได้วางแผนและปฏิบัติอย่างจริงจัง เพื่อให้บนท้องถนนสายหลักและตรอกซอกซอยเปี่ยมไปด้วยความเป็นจีน บนเส้นทางแห่งการผลักดันและการส่งเสริมการศึกษาการสอนภาษาจีน และสืบทอดวัฒนธรรมจีน ทุกท่านได้อุตสาหะและฝึกฝนความสามารถมากมายให้แก่นักเรียน จนทำให้การเรียนภาษาจีนกลายเป็นกระแสนิยม
ในด้านการส่งเสริมโครงการ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" และการก่อสร้างทางรถไฟจีน-ไทย ทุกท่านได้ระดมความคิดเห็นและข้อเสนอเพื่อวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับความร่วมมือเชิงปฏิบัติระหว่างทั้งสองประเทศอย่างเป็นรูปธรรม เมื่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เกิดขึ้นในประเทศจีน ทุกท่านรู้สึกถึงสภาวะการฉุกเฉินในประเทศมาตุภูมิของบรรพบุรุมท่าน และร่วมกันการบริจาคเงิน และสิ่งของต่าง ๆ ผ่านทางสถานกงสุลใหญ่ฯ เพื่อเชื่อมโยงรวมใจเป็นหนึ่งกับประชาชนในประเทศจีน เมื่อเผชิญหน้ากับกรณีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอมริกา แนนชี เปโลซี ซึ่งเดินทางไปยังไต้หวัน ทุกท่านได้พูดออกมาอย่างเปิดเผย ประณาม และประท้วงอย่างกล้าหาญ ปกป้องจุดยืนอันมีหลักการของจีน สิ่งเหล่านี้เป็นการฉายภาพอันแท้จริงของ ชาวจีนโพ้นทะเลจำนวนมากในเขตกงสุล ซึ่งมีรากฐานมาจากความรักในมาตุภูมิและบรรพบุรุษของพวกเขา
ประโยคที่ว่า"จีน-ไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน" ทำให้ตระหนักแล้วซาบซึ้งถึงความรู้สึกเช่นเพื่อนสนิทและความผูกพันทางสายเลือด พร้อมทั้งจะนำกงสุลใหญ่ฯให้บริการที่ดีแก่ชาวจีนพ้นทะเลในเขตกงสุลต่อไป และยึดมั่นในวัตถุประสงค์ของการ "รักและปกป้องชาวจีนโพ้นทะเล" เพื่อรวบรวมจอจีนโพนทะเลให้สมัครสมาชิกและร่วมแรงร่วมใจเข้าไปด้วยกัน พร้อมทั้งจะรับฟังข้อกังวลของชาวจีนโพ้นทะเลอย่างตั้งใจ และตอบคำถามในประเด็นต่างๆอย่างแน่วแน่เช่นการดำเนินของวีซ่าและนโยบายสำหรับการเดินทางไปประเทศจีน ช่วยเหลือโรงเรียนเอกชนสอนภาษาจีน 19 แห่งในเขตกงสุลในการยื่นขอรับความอนุเคราะห์ภายใต้โครงการ "โรงเรียนสอนภาษาจีนที่มีความยากลำบาก"
และจะสนับสนุนการแข่งขันภาษาจีนในโรงเรียนเอกชนสอนภาษาจีนผ่านทาง "ทุนกงสุลใหญ่" จัดค่ายทัศนศึกษา ดูงานภาคฤดูร้อน และส่งเสริมให้นักเรียนในท้องถิ่นเข้าใจประเทศจีนและวัฒนธรรมจีน การจัดการแข่งขันวัฒนธรรมจีนชิงถ้วยรางวัลเส้นทางสายไหม เพื่อดึงดูดคนรักภาษาจีนให้แสดงออกทางความสามารถ มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในเทศกาลประเพณีท้องถิ่น
เช่น "เทศกาลสงกรานต์" "เทศกาลไหมนานาชาติ" และ "เทศกาลแห่เทียนพรรษา" เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างจีนและไทย สถานกงสุลใหญ่ฯ จะส่งเสริมการระหว่างประชาชนและวัฒนธรรมระหว่างทั้งสองประเทศในหลากหลายระดับและหลากหลายสาขาอาชีพเพื่อตอบแทนความกระตือรือร้นของชุมชนชาวจีนโพ้นทะเลในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
เมื่อปีที่แล้ว การประชุมสมัชชาใหญ่แห่งชาติของพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 ประสบความสำเร็จอย่างราบรื่น และประกาศให้โลกได้รู้ว่าประเทศจีนกำลังส่งเสริมการฟื้นฟูครั้งใหญ่อย่างรอบด้านด้วยความทันสมัยแบบจีน จีนปฏิบัติตามนโยบายพื้นฐานระดับชาติในการเปีดประเทศสู่โลกภายนอกยึดมั่นในกลยุทธ์การเปิดกว้างเพื่อผลประโยชน์และการชนะร่วมกัน มอบโอกาสใหม่ให้กับโลกอย่างต่อเนื่องด้วยการพัฒนาใหม่ของจีน ส่งเสริมการสร้างเศรษฐกิจ โลกแบบเปิดที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนทุกประเทศ การเยือนประเทศไทยครั้งประวัติศาสตร์ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ผลักดันความสัมพันธ์แบบทวิกาคีให้เข้าสู่ยุคใหม่ของการสร้างชุมชนที่มือนาคตร่วมกัน
สุดท้ายนี้ขอแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจอีกครั้งต่อชาวจีนและชาวจีนโพทะเลในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ท่านเป็นสักขีพยาน ขอให้ความสัมพันธ์ไทยจีน ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต รวมไปถึงมิตรสหายทุกสาขาอาชีพ ที่ห่วงใยและสนับสนุนการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจีนและประเทศไทยโดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะสนับสนุนงานกงสุลฯ ดังเช่นที่ทุกท่านเคยสนับสนุนกงสุลใหญ่เซี่ย ฝูเกิน, ท่านกงสุลใหญ่หลี่ หมินกัง และท่านกงสุลใหญ่เลี่ยว จวื๋นอวิ๋น ต่อไป และขออวยพรให้มิตรภาพของประเทศจีนและประเทศไทยเจริญรุ่งเรืองประชาชนทั้ง 2 ประเทศมีแต่ความสุขความเจริญและสุขภาพแข็งแรง ขอให้มิตรภาพระหว่างทั้ง 2 ประเทศยาวสถาพรสืบไป