สระบุรี - ประชาชนจากทั่วสารทิศมาทำบุญตักบาตรดอกเข้าพรรษา วันสุดท้ายแน่นวัดพระพุทธบาท จ.สระบุรี เพื่อเป็นการอนุรักษ์และส่งเสริมขนบธรรมเนียมประเพณีของท้องถิ่น จนมาเป็นประเพณีของจังหวัด และปัจจุบันเป็นประเพณีระดับประเทศ ได้ชื่อว่าเป็นประเพณีหนึ่งเดียวในโลก
วันนี้ (2 ส.ค.) บรรยากาศที่วัดพระพุทธบาท จ.สระบุรี ได้จัดให้มีการทำบุญตักบาตรดอกเข้าพรรษา เป็นประเพณีหนึ่งเดียวในโลก เป็นวันสุดท้าย โดยมีประชาชนหลั่งไหลทยอยเดินทางมาทำบุญตักบาตรจากทั่วสารทิศในรอบแรกจำนวนหลายพันคน การตักบาตรในครั้งนี้มีพระภิกษุสงฆ์ และสามเณรจำนวน 109 รูป โดยเริ่มต้นออกรับบิณฑบาตรอบแรก เวลา 09.00 น รอบที่สอง 15.00 น. เริ่มจากวงเวียนธรรมจักร มีแถวยาวกว่า 1 กิโลเมตร ซึ่งเป็นถนนมุ่งสู่มณฑปรอยพระพุทธบาท
นอกจากนี้ ยังมีขบวนพระพุทธรูปประดิษฐฐานบนรถ ประชาชนที่มาร่วมงานตักบาตรดอกเข้าพรรษา ได้นำน้ำมาล้างเท้าพระตามความเชื่อของคนไทย เพื่อความเป็นสิริมงคล และทางเทศบาลเมืองพระพุทธบาทยังได้นำพระเนื้อผง ทำมาจากดอกเข้าพรรษามาทำเป็นมวลสาร แจกให้แก่ประชาชนที่มาร่วมงาน ในปีนี้อีกด้วย
การจัดงานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร จังหวัดสระบุรี ปีนี้ได้กำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม-2 สิงหาคม 2566 พิธีตักบาตรดอกเข้าพรรษาล้างเท้าพระ โดยกำหนดวันละ 2 รอบ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. และ 15.00 น. ทั้งนี้เพื่อเป็นการอนุรักษ์และส่งเสริมขนบธรรมเนียมประเพณีของท้องถิ่น จนมาเป็นประเพณีของจังหวัด และปัจจุบันเป็นประเพณีระดับประเทศ ได้ชื่อว่าเป็นประเพณีหนึ่งเดียวในโลก เป็นประเพณีสำคัญที่อยู่คู่กับวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร มาช้านาน
สำหรับประวัติดอกเข้าพรรษาที่ใช้ตักบาตรในครั้งนี้ ดอกเข้าพรรษา หรือดอกหงส์เหิน เป็นพืชที่จัดอยู่ในตระกูลขิง เป็นไม้ดอกเมืองร้อน และเป็นไม้ล้มลุก มีลำต้นเป็นหัวประเภทเหง้าแบบมีรากสะสมอาหารคล้ายกระชาย กาบใบเรียงตัวกันแน่น สูงประมาณ 30-70 เซนติเมตร ใบเป็นใบเดี่ยวรูปหอก ออกเรียงสลับซ้ายขวาเป็นสองแถว ส่วนดอกมีลักษณะอ่อนช้อยสวยงามยาวประมาณ 10-20 เซนติเมตร มีสีเหลืองสดใสคล้ายรูปหงส์กำลังเหินบิน และสีของกลีบประดับมีหลายสี เช่น สีเหลือง สีขาว และสีม่วง ซึ่งหนึ่งปีจะออกดอกเพียงครั้งเดียว เฉพาะช่วงเทศกาลวันเข้าพรรษาเท่านั้น