สุรินทร์ - ยิ่งใหญ่ มหกรรมแห่เทียนพรรษา และตักบาตรบนหลังช้าง จ.สุรินทร์ อลังการ ขบวนแห่เทียนพรรษาจากคุ้มวัดต่างๆ ขบวนช้าง 53 เชือก ตกแต่งประดับไฟสวยงามร่วมแห่เทียนพรรษา
วันนี้ (31 ก.ค.) ที่บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดี ศรีณรงค์จางวาง เจ้าเมืองคนแรกของจังหวัดสุรินทร์ นายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานเปิดงานประเพณีแห่เทียนพรรษาและตักบาตรบนหลังช้างประจำปี 2566 โดยปีนี้จังหวัดสุรินทร์ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เทศบาลเมืองสุรินทร์ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจังหวัดสุรินทร์ จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม-1 สิงหาคม 2565 เพื่อเป็นการสืบทอดประเพณีอันดีงามของไทยให้คงอยู่สืบไป และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์
งานมหกรรมแห่เทียนจำนำพรรษาและตักบาตรบนหลังช้างประจำปี 2566 วันนี้มีการจัดขบวนแห่ต้นเทียนและประกวดขบวนแห่เทียนพรรษาจาก 12 คุ้มวัด ที่ประดับตกแต่งสวยงาม รวมทั้งขบวนฟ้อนรำศิลปวัฒนธรรม 3 ชนเผ่า เขมร ลาว กูย และยิ่งใหญ่ด้วยขบวนช้างพลายงาสวย 9 เชือก ที่ด้านบนประดับด้วยรูปพระบรมสารีริกธาตุ รูปพระพุทธรูป พระพุทธชินราช และรูปเกจิอาจารย์ที่ชาวสุรินทร์ให้ความเคารพนับถือ พร้อมทั้งขบวนช้างแฟนซีที่ประดับตกแต่งสวยงามหลากสีสันอย่างยิ่งใหญ่ จำนวน 53 เชือก
โดยเคลื่อนขบวนจากบริเวณหน้ามณฑลทหารบกที่ 25 เข้ามายังตัวเมืองสุรินทร์ผ่านอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง เข้าไปตามเส้นทางในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ ไปหยุดที่หน้าศาลากลางจังหวัดหลังเก่า ก่อนแยกย้าย ตลอดเส้นทางผ่านสร้างความตื่นตาตื่นใจแก่นักท่องเที่ยวที่มาร่วมชมงานเป็นอย่างมาก
สำหรับงานมหกรรมแห่เทียนจำนำพรรษาและตักบาตรบนหลังช้าง จังหวัดสุรินทร์ ได้กำหนดจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี แต่ต้องหยุดจัดงานมา 2 ปีเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 และในปีนี้ได้กลับมาจัดขึ้นอีกครั้ง เพื่อเป็นการสืบทอดประเพณีอันดีงามของไทยให้คงอยู่สืบไป ซึ่งการจัดงานในแต่ละครั้งจะมีการนำช้างซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชาวสุรินทร์เข้าร่วมพิธีในการแห่เทียนพรรษา สร้างความตื่นตาตื่นใจและความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาร่วมชมงานเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ วันที่1 สิงหาคม 2566 เวลา 07.00 น. จะมีการประกอบพิธีทำบุญตักบาตรบนหลังช้าง หนึ่งเดียวในโลก โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์กำหนดจัดขึ้นที่บริเวณลานหน้าอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดี เจ้าเมืองคนแรกของจังหวัดสุรินทร์ โดยมีพระเถระชั้นผู้ใหญ่นั่งบนหลังช้าง ออกรับบิณฑบาตจากพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยว