xs
xsm
sm
md
lg

แจ้งจับเพิ่มอีก 2 แห่ง รีสอร์ตใกล้ผาหัวสิงห์ ยึดเนื้อที่กว่า 6 ไร่ สิ่งปลูกสร้าง 36 หลัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เพชรบูรณ์ - เจ้าหน้าที่ลุยแจ้งจับเพิ่มอีก 2 ราย รีสอร์ตใกล้ผาหัวสิงห์ ภูทับเบิก พบทั้งรุกป่า อช.เขาค้อ อยู่นอกเขตพื้นที่ พม.ขอใช้ประโยชน์ เชื่อมทางเดินทะลุผา เห็นวัดผาซ่อนแก้วชัด อีกรายทำลานกางเต็นท์มีรั้วไม้กั้นกันตกผา


กรณีมีนักท่องเที่ยวชี้เป้าว่าพบการก่อสร้างอาคารที่พักใกล้กับผาหัวสิงห์ ต.บ้านเนิน อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ โดยมีการตั้งคำถามจากโลกออนไลน์ว่า การสร้างสิ่งปลูกสร้างอาคารที่พัก และแนวเขตพื้นที่บดบังทัศนียภาพอันสวยงามทางธรรมชาติของผาหัวสิงห์

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ได้ร่วมกับหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พช.18 (น้ำชุน) ชุดปฏิบัติการป่าไม้พิเศษเพชรบูรณ์ ฝ่ายปกครองอำเภอหล่มเก่า และอุทยานแห่งชาติเขาค้อ ลงพื้นที่ตรวจสอบการก่อสร้างรีสอร์ตที่กำลังดำเนินการก่อสร้างใหม่ 2 แห่ง บริเวณใกล้กับผาหัวสิงห์ ภูทับเบิก แต่ไม่พบผู้กระทำผิด จึงได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.หล่มเก่าไว้แล้ว

ก่อนที่ที่ปรึกษา รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพย์ฯ รองอธิบดีกรมป่าไม้ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4.กอ.รมน., ตำรวจกองกำกับการ 4 บก.ปทส. และฝ่ายปกครองอำเภอหล่มเก่า เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะลงพื้นที่ เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2566 ที่ผ่านมา

พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน.เปิดเผยว่า ล่าสุดได้ร่วมกับนายประสาน เอียดสังข์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาค้อ นำกำลังคณะเจ้าหน้าที่ดังกล่าวเข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณด้านทิศใต้ของผาหัวสิงห์ พบว่ามีรีสอร์ตก่อสร้างบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาค้อ 2 แห่ง

แห่งแรกเป็นรีสอร์ตอยู่ริมหน้าผาด้านทิศใต้ห่างจากผาหัวสิงห์ประมาณ 200 เมตร มีหินก้อนขนาดใหญ่ ด้านบนก้อนหินทำเป็นบันไดขึ้นไปชมวิวได้ 360 องศา ต่อจากก้อนหินใหญ่ตลอดแนวหน้าผาเชื่อมต่อจากผาหัวสิงห์ ความยาวประมาณ 200 เมตร มีการก่อสร้างอาคารที่พักรุกล้ำเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติเขาค้อ ประกอบด้วยอาคารถาวรทำด้วยคอนกรีต หลังคามุงด้วยเมทัลชีต ด้านหน้าผาทำเป็นกระจก จำนวน 4 หลัง และมีฐานกางเต็นท์โดมริมหน้าผารวม 15 โดม และอยู่บนก้อนหินอีก 2 โดม ปลายหน้าผาทำบันไดขึ้นไปบนเนินเขาที่ชัน และอันตรายมาก เพื่อทำเป็นจุดเช็กอิน "สวนสวรรค์" ซึ่งจุดนี้สามารถชมวิวผาหัวสิงห์ และมองเห็นวัดผาซ่อนแก้ว อ.เขาค้อ ได้อย่างชัดเจน ส่วนอีกด้านของรีสอร์ตอยู่ในพื้นที่ที่ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดเพชรบูรณ์ (พม.) ขอใช้ประโยชน์จากป่าไม้ และได้จัดให้ราษฎรรายนี้ทำกิน แต่รีสอร์ตรายนี้สร้างออกนอกเขตที่ได้รับอนุญาตจาก พม.


เจ้าหน้าที่จึงจับค่าพิกัดพื้นที่บุกรุก คำนวณเนื้อที่ 1-2-69 ไร่ จึงตรวจยึดดำเนินคดี พร้อมสิ่งปลูกสร้างจำนวน 4 รายการ ประกอบด้วย บ้านพักถาวร ขนาด 5 x 4 เมตร จำนวน 4 หลัง โดม จำนวน 5 หลัง แคร่ไม้ไผ่ เพื่อใช้ในการกางเต็นท์ ขนาด 4 x 4 เมตร จำนวน 15 แคร่ แคร่พื้นยิปซัม ขนาด 3.6 x 3.6 เมตร พร้อมราวเหล็ก จำนวน 3 แคร่

แห่งที่สองเป็นรีสอร์ตอยู่ริมหน้าผาด้านทิศใต้ห่างจากผาหัวสิงห์ประมาณ 100 เมตร มีการปรับพื้นที่ทำเป็นลานกางเต็นท์ยาวประมาณ 100 เมตร มีเพียงรั้วไม้ชั่วคราวกั้นกันตกริมหน้าผาเท่านั้น มีการก่อสร้างเสาไฟฟ้าโซลาร์เซลล์เป็นแถวตามแนวหน้าผา จำนวน 5 ต้น โดยนักท่องเที่ยวติดต่อจองที่พักกางเต็นท์ผ่านทางเพจของรีสอร์ต คิดค่าบริการเต็นท์ละ 150 บาท/คืน ซึ่งรีสอร์ตรายนี้ใช้ประโยชน์ออกนอกเขตที่ได้รับอนุญาตบุกรุกเข้าไปในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาค้อ เจ้าหน้าที่จึงจับค่าพิกัดพื้นที่บุกรุก คำนวณเนื้อที่ได้ 0-2-82 ไร่ จึงตรวจยึดดำเนินคดีพร้อมสิ่งปลูกสร้างเสาไฟจำนวน 6 ต้น


เจ้าหน้าที่จึงได้จัดทำบันทึกเรื่องราวพร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรหล่มเก่า เพื่อดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 19(1) “ฐานยึดถือครอบครองที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ไปจากเดิม” และความผิดตามมาตรา 19(6) “ฐานเข้าไปดำเนินกิจการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์” โดยมอบให้ นายประสาน เอียดสังข์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาค้อ เป็นผู้กล่าวโทษ

พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. เปิดเผยว่า สรุปผลการตรวจยึดพื้นที่รีสอร์ตบริเวณผาหัวสิงห์ ในห้วง 19-27 ก.ค. 2566 รวมทั้งหมด 6 ราย เนื้อที่รวม 5/3/31 สิ่งปลูกสร้าง 36 หลัง




กำลังโหลดความคิดเห็น