เพชรบูรณ์ - ที่ปรึกษาฯ รมว.กระทรวงทรัพย์ฯ ยกคณะกรมป่าไม้มาแทบทั้งกรม..ลุยตรวจรีสอร์ตใกล้ผาหัวสิงห์ ภูทับเบิก หลังตำรวจป่าไม้บุกยึด 2 รีสอร์ต ปลูกสร้างใหม่ 7 ห้อง
บ่ายวันนี้ (26 ก.ค. 66) ดร.ยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินทางด้วยเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองถึงสนามบินพิษณุโลก จากนั้นได้นั่งเฮลิคอปเตอร์ มุ่งหน้าไปสนามบินชั่วคราว อบต.วังบาล อ.หล่มเก่า ร่วมประชุมรับฟังแนวทางปฏิบัติงาน-ขยายผลการดำเนินคดีบ้านพักตากอากาศ/รีสอร์ต บริเวณผาหัวสิงห์ ต.บ้านเนิน อ.หล่มเก่า
โดยมีนายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพย์ฯ, นายนิกร ศิริโรจนานนท์ รองอธิบกรมป่าไม้, นายทรงศักดิ์ กิตติธากรณ์ ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้, นายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า กรมอุทยานฯ, นายวิทยา ณวิพันธ์ ผอ.สปจ.ที่ 4 สาขาพิษณุโลก, นายโกเมศ พุทธสอน ผอ.สำนัก 11 กรมอุทยานฯ, พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ ศปป.4 กอ.รมน.ฯลฯ เข้าร่วมประชุมด้วยที่ อบต.วังบาล ก่อนลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณผาหัวสิงห์ ภูทับเบิก
หลังจากตำรวจป่าไม้-บก.ปทส. (ตำรวจสอบสวนกลาง) ได้สนธิกำลัง จนท.ป่าไม้ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พช.18 (น้ำชุน), ชุดปฏิบัติการป่าไม้พิเศษเพชรบูรณ์, ฝ่ายปกครองอำเภอหล่มเก่า และอุทยานแห่งชาติเขาค้อ ได้เข้าตรวจยึดสิ่งก่อสร้างใหม่ บนที่ดิน 2 แปลง ใกล้ผาหัวสิงห์ ภูทับเบิก บ้านเนิน หมู่ 8 ต.บ้านเนิน อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ เมื่อ 19 ก.ค. 66 ที่ผ่านมา
ซึ่งแห่งแรก พบเป็นรีสอร์ตเนื้อที่ 2 งานเศษพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 1 หลัง อีกแห่งเป็นรีสอร์ตเนื้อที่ 1 ไร่เศษพร้อมสิ่งปลูกสร้างจำนวน 7 หลัง โดยไม่พบผู้ใดแสดงตัวเป็นเจ้าของ จึงอายัดสิ่งปลูกสร้างไว้ ประเมินความเสียหายแก่รัฐ 140,000 บาท
ดร.ยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษาฯ รมว.กระทรวงทรัพย์ฯ กล่าวว่า วันนี้ต้องมาดูพื้นที่ตามข้อสั่งการรัฐมนตรีกระทรวงทรัพย์ฯ เพื่อบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องให้แม่นยำเสียก่อน สำหรับการก่อสร้างรีสอร์ตภูทับเบิก ยืนยันว่าจะต้องอยู่ในกรอบกฎระเบียบ ไม่ก่อให้เกิดทัศนะอุจาด ส่วนข้อเสนอขอเพิ่มอัตรากำลัง ดำเนินการผู้บุกรุก เฉพาะภูทับเบิกกรณีพิเศษนั้นจะต้องกลับไปปรึกษากันอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "ผาหัวสิงห์" เป็นชะง่อนหิน เหมือนภูเขาหิน "ภูกระดึง" โดยส่วนหัวตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาค้อ ส่วนตัวและหางอยู่ในเขตป่า ปี 2484 เริ่มถูกบุกรุกพื้นที่ทางขึ้นตั้งแต่ปี 61 ต่อเนื่องปี 63 และล่าสุดปี 66 ซึ่งที่ผ่านมามีการบังคับใช้กฎหมาย จับกุมผู้บุกรุกเมื่อปี 63 จำนวน 3 คดี มีผู้ต้องหา แต่ปี 64 มีการจับกุมจำนวน 4 คดีแต่ไม่มีผู้ต้องหา เนื่องจาก จนท.ป่าไม้ที่เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ถูกปิดล้อมยกทีม ไม่สามารถออกจากพื้นที่ได้ ทำให้การจับกุมล่าสุดจึงไม่มีผู้ต้องหา
ขณะที่แนวทางแก้ไขด้วยการสำรวจสิทธิถือครองบนที่ดินภูทับเบิก ไม่สามารถจะแก้ไขด้วย พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 เพราะว่าแม้คดีจบไปก็รื้อถอนไม่ได้ เพราะเป็นป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ฯ 2484 ไม่มีอำนาจให้รื้อถอน สุดท้ายจึงต้องมาใช้คำสั่ง 35/59 ซึ่งคำสั่งนี้ระบุให้ผู้ว่าราชการจังหวัด, นายอำเภอหล่มเก่า, ผอ.สจป.ที่ 4 (พิษณุโลก), โยธาจังหวัดฯ และ พม.จังหวัด มีอำนาจในการลงนามให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างหรือสิ่งที่เป็นอันตรายกีดขวาง และให้กลับคืนสู่สภาพป่าเหมือนเดิม