ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - คืบหน้าไฟไหม้อาคารเรียนโรงเรียนที่วังน้ำเขียววอดทั้งหลัง ล่าสุด ร.ร.ต้องย้าย นร.ไปเรียนที่อาคารหลังอื่น กั้นแนวเขตไม่ให้เข้าไปจุดเกิดเหตุ เผยเสียหายทั้งอาคารต้องทุบทิ้ง รอสำรวจความเสียหายเพื่อขออนุมัติงบสร้างอาคารใหม่ สาเหตุคาดไฟฟ้าลัดวงจร
วันนี้ (20 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุไฟไหม้อาคารเรียน โรงเรียนบ้านโนนสาวเอ้ หมู่ที่ 6 ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (19 ก.ค.) ซึ่งเป็นอาคารเรียนไม้ 2 ชั้น สร้างมานานกว่า 30 ปี ถูกเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบต.วังหมีได้นำรถน้ำดับเพลิงเข้าช่วยเหลือ แต่เนื่องจากเป็นอาคารไม้และมีลมกระโชกแรง และเพลิงโหมไหม้อาคารเรียนอย่างรวดเร็ว จึงทำให้ไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ อาคารเรียนถูกไฟไหม้วอดเสียหายทั้งหลัง โชคดีที่เป็นช่วงเลิกเรียนแล้วจึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่ทำให้นักเรียนชั้นอนุบาล ถึงชั้น ป.6 รวมจำนวน 40 คน ไม่มีอาคารเรียน ต้องไปเรียนรวมกับพี่ๆ ระดับมัธยมศึกษาที่อาคารปูน 2 ชั้น เป็นการชั่วคราว
ล่าสุดวันนี้ นายธวัชชัย พันทึก รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโนนสาวเอ้ เปิดเผยว่า ตอนนี้ได้นำนักเรียนชั้นอนุบาล ถึงชั้น ป.6 รวม 40 คน ไปเรียนที่อาคารมัธยม และอาคารกองอำนวยการ เพราะเป็นโรงเรียนขยายโอกาส มีนักเรียนอยู่ทั้งหมด 79 คน มีบุคลากรครู 12 คน ซึ่งที่อาคารมัธยมยังพอจะมีห้องว่างที่สามารถจัดพื้นที่ให้นักเรียนมานั่งเรียนได้ อย่างเช่น ห้องคอมพิวเตอร์, ห้องวิทยาศาสตร์ และห้องอังกฤษ จะจัดแยกการเรียนการสอนตามช่วงชั้น และยังมีหลายหน่วยงานยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ อาสาทำห้องเรียนชั่วคราว กั้นเป็นห้องๆ ให้ที่บริเวณใต้ถุนอาคารกองอำนวยการที่ยังโล่งอยู่
ส่วนอาคารที่ไฟไหม้ ทางเจ้าหน้าที่ได้นำเทปขาวแดงมาขึงกั้นแนวเขตเพื่อความปลอดภัยเอาไว้ไม่ให้ใครเข้าไป สภาพความเสียหายชั้นบนเป็นไม้ ชั้นล่างเป็นปูน ถูกไฟไหม้เสียหายหมด คาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เพราะเห็นประกายไฟไหม้จากมุมด้านบนใกล้กับเพดานอาคาร และสะเก็ดไฟกระเด็นมาโดนกองหนังสือที่อยู่ในห้องเรียนด้านบนและถังขยะที่อยู่มุมห้อง จึงทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว
สภาพซากอาคารที่หลงเหลือในวันนี้ จะเห็นได้ว่าตัวอาคารชั้นบนที่เป็นไม้ถูกไฟไหม้จนหมด เหลือแค่เสาที่ไหม้เป็นตอตะโกเท่านั้น ส่วนหลังคาเมทัลชีตก็พังยุบลงมา ในขณะที่ชั้นล่างที่เป็นอาคารปูนก็ถูกไฟไหม้อย่างรุนแรงเช่นกัน คาดว่า ความร้อนของไฟจะทำให้ความแข็งแรงของอาคารปูนเสียหายไปด้วย จึงน่าจะต้องทุบทิ้งเท่านั้นแล้วก่อสร้างตัวอาคารขึ้นใหม่
หลังจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ทางโรงเรียนจะเร่งสรุปความเสียหายทั้งหมด แล้วรายงานให้หน่วยงานต้นสังกัดทราบเพื่อขออนุมัติงบประมาณมาก่อสร้างอาคารขึ้นใหม่ และจัดซื้ออุปกรณ์การเรียนการสอนเข้ามา เพื่อเปิดห้องเรียนประจำชั้นให้แก่เด็กนักเรียนได้ตามปกติอีกครั้ง