นครราชสีมา–พบกระทิงโทนหนักกว่า 800 กิโลฯนอนตายซากอยู่ป่าข้างหมู่บ้านคลองทราย ต.วังน้ำเขียว ถูกกระสูนปืนไม่ทราบชนิด7นัดยิงเข้าลำตัว คาดออกจากป่าเขาใหญ่หากินพืชสวนชาวบ้านเลยถูกยิงไล่ให้พ้นพื้นที่ เร่งเก็บหลักฐานตรวจพิสูจน์ ก่อนเทียบเคียงกับอาวุธปืนที่มีการถือครองในท้องถิ่น เพื่อตามจับผู้ก่อเหตุฆ่าสัตว์ป่าคุ้มครอง
มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ก.ค.66 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่าพบกระทิงป่าเพศผู้นอนตายบริเวณป่าข้างหมู่บ้านคลองทราย หมู่ที่ 8 ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาแผงม้า ลงพื้นที่ไปร่วมตรวจสอบ พบกระทิงป่าเพศผู้ขนาดใหญ่ นอนตายอยู่บริเวณทุ่งหญ้าข้างหมู่บ้านคลองทราย มีร่องรอยถูกกระสุนปืนไม่ทราบขนาด ยิงเข้าที่บริเวณลำตัวหลายนัด
เจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาแผงม้า จึงได้ทำการผ่าซากตรวจสอบ เพื่อหาหลักฐานกระสุนปืน ในการประกอบการสืบสวนหาผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และใช้รถแบคโฮขุดหลุมฝังซากกระทิงไว้ที่บริเวณใกล้จุดพบซากกระทิง
นายอรรณพ บัวนวล หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาแผงม้า อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในจุดพบซากกระทิง เป็นบริเวณป่ารกพื้นที่โล่ง ซึ่งชาวบ้านเคยปลูกไร้มันสำปะหลัง ห่างจากป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ประมาณ 300 เมตร และห่างจากพื้นที่ป่าเขาแผงม้าประมาณ 2 กิโลเมตร จึงคาดว่ากระทิงป่าตัวนี้ น่าจะเป็นกระทิงที่ออกมาจากป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยเป็นกระทิงโทน เพศผู้ อายุประมาณ 12 ปี มีน้ำหนักกว่า 800 กิโลกรัม
สำหรับพฤติกรรมของกระทิงโทน ก็มักจะชอบเดินหากินอยู่ตัวเดียว ส่วนลักษณะการถูกยิงนั้น คาดว่าเป็นปืนลูกซองเม็ดกราย เพราะมีลูกตะกั่วปืนฝังอยู่ในตัวกระทิงหลายเม็ด ไม่เหมือนการล่าสัตว์ป่าเพื่อการค้าทั่วไป เพราะไม่มีการแล่เนื้อ หรือตัดเขากระทิงไปแต่อย่างใด แต่เป็นลักษณะเหมือนการยิงเพื่อไล่ เพราะเขตนี้มีชาวบ้านยิงพลุ จุดประทัด ไล่ช้างและกระทิงอยู่บ่อยครั้ง
อย่างไรก็ตาม หากตรวจสอบพบว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ ก็จะต้องถูกจับดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหาล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พ.ร.บ.สงวนคุ้มครองสัตว์ป่า มาตรา 12 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้าน พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ตังอำนวจ ผกก.สภ.วังน้ำเขียว เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบกระทิงตัวนี้ตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 วัน มีกระสุนปืนไม่ทราบขนาด ฝังอยู่ในตัวกระทิงจำนวน 7 นัด ขณะนี้ได้ส่งกระสุนปืนดังกล่าวไปให้ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 ตรวจสอบชนิดของกระสุนปืน ว่าเป็นปืนประเภทใด และเทียบเคียงกับอาวุธปืนที่มีอยู่ในครอบครองของคนในพื้นที่ ว่าตรงกับปืนของใครหรือไม่
เนื่องจากร่องรอยซากกระทิง น่าจะถูกยิงมาจากที่อื่น ก่อนที่จะหนีไปตายบริเวณนี้ ขณะที่บริเวณนี้ก็มีกระทิงป่าออกมาหากินอยู่เป็นประจำ ก็อาจจะเป็นไปได้ว่ามันไปกินพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้าน แล้วถูกชาวบ้านยิงไล่จนได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ถึงอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ยังไม่ได้ตัดประเด็นใดออก ทั้งการล่าสัตว์ป่า และการยิงป้องกันของชาวบ้าน แต่หากตรวจสอบพบว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ ก็จะถูกจับดำเนินคดีให้ถึงที่สุด.