ตราด - ระทึกกว่า 6 ชั่วโมง เรือเฟอร์รี่ข้ามฟากเกาะช้าง ถูกอวนชาวประมงพันติดใบพัดจนเครื่องยนต์ดับลอยคว้างกลางทะเลขณะคลื่นลมแรง จนต้องประสานขอความช่วยเหลือจากทหารเรือ ส่งเรือ ต.2 ลำ นำนักท่องเที่ยว และชาวบ้านกลับเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ 15.00 น.วันนี้ (17 ก.ค.) น.อ.วัชรพงษ์ ปรียานนท์ ผู้บังคับการฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารเรือ จำนวน 10 นาย ได้นำรถบัสเข้ารับนักท่องเที่ยวและผู้โดยสาร จำนวน 31 ราย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ประจำเรือเฟอร์รี่ของ บริษัท ตราดเฟอร์รี่ จำกัด อีก 4 รายกลับเข้าฝั่ง หลังได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจาก ศรชล.ตราด (ศูนย์รักษาผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเลตราด) ว่ามีเรือเฟอร์รี่ลอยลำอยู่กลางทะเลหลังเครื่องยนต์ดับโดยไม่ทราบสาเหตุตั้งแต่เวลา 08.00 น.ที่ผ่านมา
กระทั่งได้รับคำชี้แจงจากกัปตันเรือว่าใบพัดเรือเฟอร์รี่ถูกอวนของชาวประมงพันจนเครื่องยนต์ไม่สามารถทำงานได้ และที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ประจำเรือ และกัปตันพยายามแก้ไขแต่ไม่สำเร็จจึงต้องเรียกเรือประมงที่วิ่งผ่านไปมาเข้าให้การช่วยเหลือด้วยการดึงเรือเข้ามาฝั่งแต่เชือกที่ผูกเรือได้ขาดลงเนื่องจากคลื่นลมแรงจึงทำให้ต้องลอยลำอยู่กลางทะเลนานหลายชั่วโมง
ทั้งนี้ น.อ.วัชรพงษ์ ปรียานนท์ ผู้บังคับการฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด เผยว่า หลังจากได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจาก ศรชล.ตราด จึงได้สั่งการให้เรือหลวงกันต้ง ได้นำเรือ ต.263 และเรือ ต.82 ในหมวดเรือลาดตระเวนชายแดนภาค 1 (มชด./1) เข้า ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวและผู้โดยสาร เมื่อพบเห็นเรือของทหารต่างพากันดีใจ
“แต่เนื่องจากคลื่นลมแรงจึงทำให้การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความลำบาก และเมื่อได้รับแจ้งว่ามีทั้งผู้สูงอายุและเด็กอยู่ด้วยจึงได้เตรียมหน่วยแพทย์ไว้เพื่อรอให้การช่วยเหลือ ซึ่งพบว่าทุกคนปลอดภัยและไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด” น.อ.วัชรพงษ์ กล่าว
ด้าน เรือโทจรินทร์ กลั่นมาก เจ้าหน้าที่ ศรชล.ตราด เผยว่าได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากผู้ประกอบการเรือเฟอร์รี่ตั้งแต่เวลา 9.00 น.ที่ผ่านมา จึงวางแผนเพื่อให้การช่วยเหลือ แต่เนื่องจากคลื่นลมแรงจึงประสานไปยังฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราดและหมวดเรือลาดตระเวนชายแดน กระทั่งพบเรือเฟอร์รี่ ถูกลมพัดไปบริเวณชายฝั่งด้านบ้านยายม่อม ต.แหลมงอบ ซึ่งอยู่ห่างจากท่าเรือเฟอร์รี่เซนเตอร์พอยท์ ประมาณ 5 กิโลเมตร จึงประสานให้นำเรือ ต.2 ลำ ประกอบด้วย เรือ ต.263 และ เรือ ต.82 เข้าทำการช่วยเหลือ
โดยมีญาติของผู้โดยสารเรือเฟอร์รี่ดังกล่าวพากันเดินทางมารอติดตามข่าวที่ท่าเรือเป็นจำนวนมาก