หนองคาย - ศุลกากรภาคที่ 2 ทำลายของกลางคดีสิ้นสุด ทั้งบุหรี่ไฟฟ้า สินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า มูลค่ารวมกว่า 40 ล้านบาท ย้ำทุกฝ่ายร่วมมือกันป้องกันเด็กเยาวชนให้ห่างไกลจากบุหรี่ไฟฟ้า หากพบเห็นการกระทำความผิดขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ สคบ. ซึ่งผู้ที่แจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่จะเก็บไว้เป็นความลับ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (12 ก.ค.) ที่สำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 อ.เมือง จ.หนองคาย นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, นายพร้อมชาย สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2, นายยุทธนา ศรีตะบุตร นายก อบจ.หนองคาย, พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค, พ.ต.อ.พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ รองผบก.ภ.จ.หนองคาย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันทำลายของกลางที่เจ้าหน้าที่ศุลกากรทำการตรวจยึดไว้ได้และคดีถึงที่สุดแล้ว จำนวน 20 คดี จากจำนวน 28 คดี รวมทั้งสิ้น 62,888 ชิ้น น้ำหนัก 5,750.75 กิโลกรัม
โดยแยกเป็นบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมอุปกรณ์ เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า หัวบุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้สำหรับดูดและอุปกรณ์อื่น นอกจากนี้ยังเป็นสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า กระเป๋า และอื่นๆ จำนวน 1 คดี 2,231 ชิ้น น้ำหนัก 545.7 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจทั้งหมดประมาณ 40 ล้านบาท การทำลายของกลางคดีสิ้นสุดในครั้งนี้ ใช้วิธีการบด ตัด ทำลายให้เสื่อมสภาพ เพื่อไม่ให้สามารถนำกลับมาใช้งานได้อีก หลังจากนั้นองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคายจะนำไปกำจัดให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ
นายพร้อมชาย สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 กล่าวว่า ตามนโยบายของนายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร ให้มีการเข้มงวดป้องกันและปราบปรามสินค้าลักลอบหนีศุลกากร หลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร ของต้องห้าม ของต้องกำกัดและสินค้าที่ไม่ผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง ซึ่งสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 ได้ร่วมกับด่านศุลกากรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและหน่วยสืบสวนปราบปรามประจำพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ฝ่ายสืบสวนปราบปรามที่ 2 ส่วนสืบสวนปราบปราม 1 กองสืบสวนและปราบปรามได้จับกุมและตรวจยึดของกลาง
เช่น บุหรี่ไฟฟ้าพร้อมอุปกรณ์ สินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า ซากสัตว์ป่าประเภทหนังช้าง และเกล็ดตัวนิ่ม ต้นพันธุ์ทุเรียน สินค้าแบรนด์เนม หน้ากากอนามัย ปีงบประมาณ 2566 ในรอบ 3 ไตรมาส รวมทั้งสิ้น 28 คดี รวมมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจประมาณ 50 ล้านบาท
ด้าน พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า บุหรี่ไฟฟ้านับว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับเด็กเยาวชน ซึ่ง สคบ.ได้ให้ความสำคัญต่อการดูแล ป้องกันการใช้บุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งทุกวันนี้รูปแบบของบุหรี่ไฟฟ้ามีมากมายหลากหลายทั้งแบบเติม แบบใช้แล้วทิ้ง แบบการ์ตูนสวยงาม ผู้ใหญ่ตามไม่ทัน เด็กเยาวชนอยากรู้อยากลอง มีทั้งแบบใช้แล้วทิ้งในราคาประมาณ 200 บาท สูบได้ 2,000 คำ เด็กเยาวชนซื้อมาแล้วใช้วิธีการเวียนกันสูบ เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคและเจ็บป่วยได้ง่าย
ดังนั้นขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันป้องกันเด็กเยาวชนให้ห่างไกลจากบุหรี่ไฟฟ้า หากพบเห็นการกระทำความผิดขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ สคบ.ซึ่งผู้ที่แจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่จะเก็บไว้เป็นความลับ