xs
xsm
sm
md
lg

ป้าเซ็นค้ำซื้อรถถูกฟ้องยึดที่นาเริ่มมีหวัง หลัง “ทนายอั๋น” ยื่นมือช่วย ล่าสุดบังคับคดีนัดทุกฝ่ายพูดคุย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บุรีรัมย์-ทนายอั๋น บุรีรัมย์ ยื่นมือช่วยป้าวัย 67ถูกหลานสะใภ้หลอกเซ็นค้ำซื้อรถยนต์เป็นชื่อเพื่อนโดนฟ้องยึดที่นา 9 ไร่ และที่สวนอีก 1 แปลง แถมเป็นหนี้ ธ.ก.ส.อีก 6 แสน ทั้งที่รับภาระผ่อนจ่ายส่วนต่างมาตลอดเหลือเพียง 3 หมื่นกลับถูกยึดทรัพย์ขายทอดตลาดไม่เป็นธรรม ล่าสุดบังคับคดีเรียกป้าไปสอบถาม เตรียมเชิญทุกฝ่ายพูดคุย 12 ก.ค.นี้ เพื่อหาทางออกร่วมกันให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

วันนี้ ( 8 ก.ค.) ความคืบหน้า กรณีนางสงบ นามไพร อายุ 67 ปี เกษตรกรชาวต.หินลาด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมทั้งน้ำตา หลังจากเมื่อปี 2561 ขณะไปรับจ้างทำมาหากินอยู่ที่ จ.ชุมพรกับครอบครัว หลานสะใภ้ซึ่งไปทำงานอยู่ที่ชุมพรเหมือนกัน ได้มาขอให้ช่วยไปเซ็นค้ำประกันซื้อดาวน์รถยนต์ราคากว่า 7 แสนบาทให้ โดยไม่รู้ว่าหลานสะใภ้ใช้ชื่อเพื่อนเป็นคนซื้อ แต่หลานสะใภ้เป็นคนเอารถไปใช้และจ่ายค่างวดเอง โดยสามีของเพื่อนหลานสะใภ้ และตนเองเป็นคนเซ็นค้ำ ต่อมาปี 2562 เพื่อนหลานสะใภ้ที่มีชื่อซื้อดาวน์รถยนต์คันดังกล่าวได้ล้มป่วยและเสียชีวิต แล้วหลานสะใภ้ที่เป็นคนเอารถไปใช้ไม่ยอมจ่ายค่างวดต่อ เพราะเข้าใจผิดคิดว่าบริษัทประกันที่ทำไว้จะยกกรรมสิทธิ์รถยนต์ให้คนซื้อที่เสียชีวิต แต่บริษัทประกันแจ้งว่าไม่เข้าเงื่อนไขเพราะไม่ได้ตายเพราะอุบัติเหตุ บริษัทไฟแนนซ์จึงมายึดรถคืน พร้อมทั้งได้ฟ้องศาลจังหวัดชุมพร เรียกค่างวดที่ค้างชำระคืน 8 เดือน และค่าส่วนต่างรวมเป็นเงิน 120,000 บาท


กระทั่งมีการไกล่เกลี่ยในชั้นศาล ซึ่งป้าสงบยอมผ่อนจ่ายเดือนละ 3,000 บาท เพราะไม่อยากถูกยึดทรัพย์ โดยที่ผ่านมาก็ผ่อนจ่ายตามสัญญามาตลอดมีบางเดือนที่จ่ายช้าบ้างเพราะหาเงินไม่ทัน กระทั่งเหลือยอดประมาณ 3 หมื่นบาท ก็มีหมายบังคับมาติดประกาศขายทอดตลาดที่ดินที่เป็นชื่อของตัวเอง 2 แปลง คือ แปลงที่นาเนื้อที่ 9 ไร่ 2 งาน 27 ตารางวา และแปลงสวนข้างบ้านเนื้อที่ 1 งาน 48 ตารางวา ทั้งยังเป็นหนี้ ธ.ก.ส.อีก 6 แสนบาท จึงร้องขอความเป็นธรรม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น ได้พาคุณป้าสงบ เข้าพบบังคับคดีสาขานางรอง เพื่อให้ข้อมูล โดยเบื้องต้นมีทาง ธ.ก.ส.ในพื้นที่ เจ้าหน้าที่บังคับคดีสาขานางรอง และตัวคุณป้าพูดคุยรายละเอียดเรื่องราวที่เกิดขึ้นเท่านั้น ซึ่งทาง ธ.ก.ส.นางรอง ก็จะได้ประสานข้อมูลกับทาง ธ.ก.ส.ท่าแซะ จ.ชุมพร ท้องที่ที่สามีคุณป้าไปกู้เงิน แต่ลูกได้กู้ปิดไปแล้วเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงก่อน ส่วนบังคับคดีก็จะประสานผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมาพูดคุยกันอีกครั้งที่สำนักงานบังคับคดีสาขานางรอง ในวันที่ 12 ก.ค.นี้


นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น กล่าวว่า หลังได้รับการประสานขอความช่วยเหลือจากป้าสงบ กรณีที่ป้า ไปค้ำประกันซื้อดาวน์รถยนต์ ให้กับหลานสะใภ้ จนเข้าสู่กระบวนการศาล มีการฟ้องร้องเรียนค่างวดค่าส่วนต่าง กระทั่งมีการตกลงเจรจาให้ป้าซึ่งเป็นคนค้ำประกันชดใช้ค่างวดที่ค้างและค่าส่วนต่าง เนื่องจากคนที่ซื้อดาวน์รถเสียชีวิต กระทั่งถูกยึดทรัพย์คือที่ดิน 2 แปลงขายทอดตลาด แต่ที่ดินเนื้อที่ 9 ไร่ซึ่งป้าทำนาอยู่น่าจะมีมูลค่าหลักล้านบาท แต่ถูกขายเพียงแค่ราคา 50,000 บาท ที่สวนน่าจะราคาประมาณ 3 – 4 แสนบาท แต่ถูกขายในราคา 1 แสนบาท

คุณป้า มองว่าไม่เป็นธรรม จึงได้มาร้องต่อตนเองซึ่งเป็นทนายความ ตนจึงเข้ามาให้คำปรึกษาและพาป้ามา ไปที่สำนักงานบังคับคดีสาขานางรอง ซึ่งก็มี ธ.ก.ส. เจ้าหน้าที่บังคับคดีมาพูดคุย ได้ข้อสรุปว่าทางบังคับคดี จะเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหนี้ คือบริษัทไฟแนนซ์ รวมทั้งคนซื้อที่ทั้ง 2 แปลง และ ธ.ก.ส.มาพูดคุยเพื่อหาทางออกร่วมกัน ให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย


ด้านป้าสงบ บอกว่า หลังจากที่สำนักงานบังคับคดีได้เชิญมาพูดคุยสอบถามรายละเอียด และมีทนายความยื่นมือมาช่วยเหลือ ถึงแม้ว่าจะนัดผู้ที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยกันอีกครั้ง ในวันที่ 12 ก.ค.ที่จะถึงนี้ แต่ก็ดีใจและมีความหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรม ขอขอบคุณทนายความที่ยื่นมือเข้ามาช่วย ยืนยันว่าป้าแค่ไปเซ็นค้ำให้หลานสะใภ้ซื้อดาวน์รถยนต์ตามที่หลานสะใภ้มาขอร้อง และไปเซ็นเพราะเห็นว่าเป็นญาติพี่น้องกัน และหลานรับปากว่าไม่ไม่ทำให้เดือดร้อน

โดยที่ไม่รู้มาก่อนว่าคนที่มีชื่อซื้อดาวน์รถยนต์คันที่เกิดปัญหาจะเป็นเพื่อนของหลานสะใภ้ เพิ่งจะมารู้ตอนที่บริษัทไฟแนนซ์มาทวงถามค่างวดที่ค้าง ในฐานะที่ตนเองเป็นคนค้ำประกัน อยากให้กรณีของตนเองเป็นอุทาหรณ์ว่าจะไปค้ำประกันให้ใครต้องตรวจสอบให้ดี และตัดสินใจให้รอบคอบแม้กระทั่งเป็นญาติพี่น้องก็ตาม เพราะสุดท้ายตนเองก็ต้องเดือดร้อนมารับภาระแทนคนอื่น








กำลังโหลดความคิดเห็น