ศรีสะเกษ - จังหวัดศรีสะเกษ จับมือ กฟผ. หน่วยงานราชการ และสื่อมวลชนร่วมปลูกป่า ภายใต้โครงการปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วม เพิ่มพื้นที่สีเขียวดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หวังสร้างความยั่งยืนด้านทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
วันนี้ (3 ก.ค.) ที่โรงเรียนศรีสะเกษวิทยาลัย อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ นายนพ พงศ์ผลาดิสัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และนายประเสริฐศักดิ์ เชิงชวโน รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ สื่อมวลชน และนักเรียนกว่า 200 คน ร่วมปลูกป่านำร่องในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ภายใต้โครงการปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วม สนับสนุนนโยบายมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนของ กฟผ. (EGAT Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ.2050
นายนพ พงศ์ผลาดิสัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า โครงการปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วม เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่ช่วยแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ สร้างประโยชน์จากการดูดซับกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทั้งยังช่วยส่งเสริมและฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตด้านเศรษฐกิจ สังคมของคนในชุมชน โดยกิจกรรมปลูกป่าครั้งนี้นับเป็นการเริ่มต้นปลูกป่านำร่องในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ และจะขยายผลไปในหลายพื้นที่เพื่อสร้างคุณภาพอากาศที่ดีให้ชาวศรีสะเกษต่อไป
ด้านนายประเสริฐศักดิ์ เชิงชวโน รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ กฟผ. กล่าวว่า กฟผ. ดำเนินนโยบาย EGAT Carbon Neutrality ภายในปี ค.ศ.2050 เพื่อสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน จัดการคุณภาพอากาศ เพิ่มพื้นที่สีเขียวของประเทศ ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และเป็นการเชิญชวนให้คนไทยทุกคนมีส่วนร่วมในการปลูกต้นไม้ เพิ่มความชุ่มชื่นให้ประเทศไทย
สำหรับโครงการปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วมในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งดำเนินการปลูกป่าแบบบูรณาการร่วมกับโรงเรียนศรีสะเกษวิทยาลัย ประกอบไปด้วยพรรณไม้จำนวนกว่า 500 ต้น เช่น ต้นลำดวน ต้นยางนา ต้นเหลืองปรีดียาธร ต้นตะแบก ต้นทองอุไร และต้นกัลปพฤกษ์ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2.5 ไร่
“กฟผ. มีแผนปลูกป่าปีละ 100,000 ไร่ ทั้งป่าอนุรักษ์ ป่าชุมชน ป่าเศรษฐกิจ และป่าชายเลน รวมจำนวน 1,000,000 ไร่ ภายในระยะเวลา 10 ปี ระหว่างปี 2565-2574 สามารถชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 1.2 ล้านตันต่อปี และคาดว่าตลอดระยะเวลาโครงการจะดูดซับกักเก็บคาร์บอนได้ทั้งสิ้นประมาณ 23.6 ล้านตัน” รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ กฟผ.กล่าวในที่สุด