ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - อดีตเลขาธิการหอการค้าอีสานเชื่อ 8 พรรคร่วมรัฐบาลแตกคอกันแล้ว หลังท่าทีเพื่อไทยต้องการตำแหน่ง ปธ.สภาฯ ชี้ถ้าเพื่อไทยจับมือฝ่ายรัฐบาลเดิมจัดตั้งรัฐบาล เดินสู่ยุบสภาฯ เร็ว เลือกตั้งครั้งหน้าก้าวไกลแลนด์สไลด์แน่
วันนี้ (28 มิ.ย.) นายทวิสันต์ โลณานุรักษ์ อดีตเลขาธิการหอการค้าภาคอีสาน ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับศึกชิงประธานสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างพรรคเพื่อไทย(พท.) กับพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ว่า โดยส่วนตัวแล้วตนมองว่าพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลทั้ง 8 พรรค แตกคอกันแล้ว และคงจะไม่มีการร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลแน่นอน เพราะดูจากท่าทีของ 2 พรรค คือ พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ มีการขัดแย้งกันและต่อรองกันหลายอย่าง แต่ดูจากท่าทีเมื่อคืนคงจะชัดเจนแล้วว่าทั้ง 2 พรรคไม่เดินร่วมทางกันแล้ว โดยเฉพาะพรรคก้าวไกล ซึ่งได้ออกมาประกาศเลื่อนการแถลงข่าวออกไปอย่างไม่มีกำหนด ก็คงจะตัดสินใจไปเป็นฝ่ายค้านเต็มตัว
ขณะเดียวกันท่าทีของฝ่ายรัฐบาลเก่า ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้แน่ชัดว่าจะเป็นฝ่ายค้านจริงหรือไม่ ก็มีการออกมาเคลื่อนไหวกันมากมาย ทั้ง ส.ว. และองค์กรอิสระต่างๆ ก็เคลื่อนไหวเป็นไปในทิศทางเดียวกัน นอกจากนี้ การที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กลับมาจากอังกฤษ ก็เกิดปรากฏการณ์นี้ ซึ่งสอดคล้องกันพอดี จึงทำให้หลายคนเชื่อกันว่าจะมีดีลลับเกิดขึ้นแน่นอน
แม้ว่าพรรคเพื่อไทยจะเคยอ้างว่าต้องไปถาม ส.ส.ในพรรคก่อน และตอนนี้กลับมาย้อนศร เพราะก่อนหน้านี้มีการตั้งคณะกรรมการพรรคเพื่อไปเจรจา แต่เมื่อนำผลการเจรจากลับมา สมาชิกในพรรคกลับไม่เห็นด้วย แล้วจะมีคณะกรรมการเจรจาไปเพื่ออะไร
การเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนเลือกพรรคที่อยู่ฝั่งประชาธิปไตย จนได้ ส.ส.ฝ่ายประชาธิปไตยเกินกว่า 300 เสียง ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าประชาชนต้องการให้ฝ่ายประชาธิปไตยเข้ามาบริหารประเทศ แต่เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ก็ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ที่เลือกตั้งไปแล้วรู้สึกผิดหวังกับนักการเมืองมาก ซึ่งพรรคก้าวไกล ส.ส.ส่วนใหญ่จะเป็นคนหนุ่มสาว และเป็น ส.ส.หน้าใหม่เกือบทั้งหมด
ขณะที่ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ส่วนใหญ่จะเป็นคนเก่า ที่มีอายุห่างกันมาก เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ก็จะทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง หุ้นของไทยก็ตกไปอีก การส่งออกก็จะมีปัญหา นักลงทุนก็จะหันไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านมากกว่า ซึ่งผลกระทบจากการที่เราจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ สร้างความเสียหายมหาศาล ถ้าเป็นต่างชาติ ชนะกัน 1 เสียงก็คือชนะ แล้วก็จัดตั้งรัฐบาลไปทำงานได้ แต่ประเทศไทยไม่ใช่อย่างนั้น เพราะจะต้องมีองค์กรอิสระต่างๆ มากมายเข้ามาเกี่ยวข้องอีก
ขณะเดียวกันมีข่าวว่า ทางฝั่งของ พล.อ.ประวิตรจะมีการจับมือกับพรรคเพื่อไทย และพรรคฝั่งรัฐบาลเก่า จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย โดยมี ส.ว.ยกมือสนับสนุนให้ และมีข่าวว่าจะใช้เงินซื้องูเห่า ตัวละ 100 ล้านบาท ก็คงจะเป็นเรื่องที่น่าคิด และมีคนเริ่มจะเชื่อแล้วว่าอาจจะจริง ถ้าเป็นจริงการเมืองไทยจะถอยหลังลงคลองแน่นอน 91 ปี ของระบอบการเมืองประชาธิปไตยของไทย จะไปไม่ถึงไหนเสียที
"และถ้ามีการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย รัฐบาลชุดนี้ก็อาจจะอยู่ได้ไม่นานก็ยุบสภา เมื่อมีการเลือกตั้งใหม่ เที่ยวหน้าตนเชื่อว่าคำว่าแลนด์สไลด์จะเกิดขึ้นจริงแน่นอน พรรคก้าวไกลอาจจะชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย และพรรคเพื่อไทยอาจจะสูญพันธุ์ไปเลยก็เป็นได้" นายทวิสันต์ กล่าว