แม่ฮ่องสอน - เทศบาลฯ เปิดวงจรปิด-พาผู้เสียหายแจ้งความ ก่อน ตร.ตามตัวเคลียร์บนโรงพัก..วัยรุ่นแม่ฮ่องสอนหวงแฟนเก่าควงหนุ่มคนใหม่เดินเที่ยวหนองจองคำ ยกพวกไล่รุมยำจนคู่กรณีหนีตายออกนอกพื้นที่ ชี้กระทบท่องเที่ยวจังหวัด
กลุ่มวัยรุ่นที่ตั้งก๊วนกวนเมืองไปรวมตัวกันที่บริเวณสวนสาธารณะหนองจองคำ ใจกลางเมือง เขตเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน จนไปจ๊ะเอ๋กับคู่อริแล้วไล่ยำกันท่ามกลางสายตาชาวบ้านและนักท่องเที่ยว จนคู่กรณีต้องวิ่งหนีตายไปขอความช่วยเหลือจากพ่อค้าแม่ค้าที่ถนนคนเดิน แต่แก๊งนี้ยังกร่างไม่หนำใจ เล่นคนไม่ได้หันมาทำลายรถจักรยานยนต์คู่กรณีจนเสียหาย เมื่อ 18 มิ.ย. 66 ท้ายที่สุดฝ่ายที่ถูกถล่มต้องหนีออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย
ล่าสุดเรื่องราวดังกล่าวถูกโพสต์กระฉ่อนโซเชียลฯ พร้อมวิพากษ์วิจารณ์ถึงกลุ่มวัยรุ่นที่ไม่ยำเกรงกฎหมายและมีพฤติกรรมฉาวอีกหลายที่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยมีกระแสเรียกร้องให้ทางเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอนเข้ามาจัดการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน เนื่องจากเป็นพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อชาวบ้านหรือนักท่องเที่ยว ที่มักจะไปพักผ่อนที่สวนสาธารณะ ชมความสวยงามของวัดจองคำ-จองกลางหรือแวะให้อาหารปลาในช่วงยามเย็น
ขณะที่นายชาติชาย น้อยสกุล รักษาการปลัดเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและพ่อค้าแม่ค้าที่ถนนคนเดินเมื่อ 21 มิ.ย. 66 แล้วได้ประสานผู้เสียหายคือ นายอาวู่และนางสาวอ้อม เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.บุญรับ ยุบล สารวัตรสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน
หลังจากให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนแล้วทราบว่าหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว ชื่อนายอาร์ม (ขอสงวนนามสกุล) ครอบครัวมีอาชีพค้าขายอยู่แถวที่ว่าการอำเภอเมืองและเป็นคนที่ลงมือ
ผู้เสียหายระบุว่า วันเกิดเหตุ ตนพร้อมแฟนสาวไปเดินเล่นกันที่หนองจองคำ ระหว่างนั้นก็เจอกับน้องชายของนายอาร์มและคาดว่าน้องนายอาร์มคงจะโทร.ไปบอกพี่ชายว่าเจอตนเองที่นี่ สักพักก็มีกลุ่มของนายอาร์มตามมาเจอที่หน้าวัดจองคำแล้วไม่พูดพล่ามทำเพลงกระโดดต่อยตนทันที ทำให้ต้องทิ้งรถวิ่งหลบหนีไปขอความช่วยเหลือจากพ่อค้าแม่ค้าที่ถนนคนเดินจึงรอดจากการถูกรุมยำไปได้ แต่นายอาร์มก็หันไปทุบทำลายรถจักรยานยนต์ของตนจนยางรั่วและตัดสายเบรกด้วย เมื่อหนำใจแล้วก็พากันแยกย้ายไป
ต่อมาก็มีชาวบ้านโทรศัพท์แจ้งตำรวจและช่วยกันเข็นรถมาส่งให้ตนเองตรงที่หลบซ่อนตัวอยู่ จนกระทั่งตำรวจสายตรวจเดินทางมาถึงจึงได้ช่วยยกรถจักรยานยนต์ขึ้นรถของตำรวจเอาไปซ่อม จากนั้นตนและแฟนสาวก็ได้หลบหนีออกจากพื้นที่ไปพักกับญาติที่จังหวัดเชียงใหม่เพื่อความปลอดภัย จนกระทั่งทางเทศบาลได้ประสานงานให้กลับมาเพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเรื่องที่เกิดขึ้นจึงกล้ากลับมาดังกล่าว
ทั้งนี้ พ.ต.ท.บุญรับ ยุบล สารวัตรสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน จึงได้ให้สายตรวจไปแจ้งผู้ปกครองนายอาร์ม เพื่อนำตัวนายอาร์มมารับทราบข้อกล่าวหาและดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งยอมรับว่าลูกชายตนเองกระทำผิดจริง พร้อมที่จะชดใช้ค่าเสียหาย ทางตำรวจจึงได้เรียกให้คู่กรณีมาเจรจาตกลงกัน เพราะเห็นว่าเป็นการทะเลาะวิวาทหรือไม่บาดเจ็บสาหัส มีเพียงรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย
แม่ของนายอาร์มได้พูดคุยกับคู่กรณีและทราบว่าลูกโมโหที่อดีตแฟนของตัวเองไปคบกับนายอาวู่ จนเกิดบันดาลโทสะดังกล่าว โดยยินยอมชดใช้ค่าเสียหายและเสียค่าปรับ พร้อมกับรับปากว่าจะดูแลลูกชายให้ดีขึ้นและไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก พร้อมกับกล่าวอ้อนวอนขอความเห็นใจกับคนในพื้นที่ว่าตั้งแต่เกิดเรื่องมาหลายวันนี้ตนเองก็ได้รับผลกระทบมากแล้ว ไม่มีลูกค้าเข้าไปอุดหนุนที่ร้านเลย จึงอยากจะวิงวอนขอความเห็นใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอให้มีพื้นที่ยืนเพื่อทำมาหากินได้บ้าง
หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายก็ได้ทำความเข้าใจและจับมือกันก่อนที่จะแยกย้ายกันไป โดยรับปากว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกเพื่อไม่ให้เป็นผลเสียต่อชื่อเสียงของทางจังหวัดแม่ฮ่องสอนด้วย