กลุ่มสุราพื้นบ้านเมืองแปดริ้วหนุนนโยบาย “สุราก้าวหน้า” รื้อกฎเหล็กดักทางสาโทไทยขยับจากสุราใต้ดิน

ฉะเชิงเทรา - ประธานกลุ่ม Young Smart Farmer จ.ฉะเชิงเทรา หวังกระแส “สุราก้าวหน้า” ดันสาโทพื้นบ้านเมืองแปดริ้วขยับขึ้นจากสุราใต้ดิน หนุนคนไทยสร้างแบรนด์ สร้างอาชีพ สร้างรายได้จากสินค้าเกษตรแปรรูป เผยศักยภาพสุราไทยรสชาติเยี่ยมไม่แพ้ใครในโลก ติดแค่กับดักกฎหมาย

วันนี้ (17 มิ.ย.) นายนิทัศน์ ศรีอุราม อายุ 30 ปี ประธานกลุ่ม Young Smart Farmer จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ซึ่งมีความนิยมในการปรุงแต่งรสชาติอาหารประเภทเครื่องดื่ม และยังเป็นสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรปลอดภัยสูง เผยว่า หลังจากที่มีการประกาศนโยบาย “สุราก้าวหน้า” เพื่อช่วยให้สุราไทยได้มีโอกาสขยายตัวในตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ 

ทำให้กลุ่มของตนเองซึ่งได้ปรุงแต่งและพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มประเภทสาโท ที่ได้รับการถ่ายทอดต้นตำรับมาจากสุราพื้นบ้านที่ได้นำภูมิปัญญาจากปราชญ์ชาวบ้านมาพัฒนาต่อยอด มีความหวังที่จะยกระดับสุราไทยขึ้นจากการเป็นสุราใต้ดิน 

และยังบอกอีกว่าขณะนี้ทางกลุ่มสามารถที่จะพัฒนาสาโทให้มีรสชาติดี กลมกล่อม และมีกลิ่นหอมมากขึ้นกว่าในอดีต ซึ่งเกิดจากวัตถุดิบที่เป็นผลิตผลทางการเกษตรในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา และผลไม้ชนิดต่างๆ ที่เกษตรกรสามารถผลิตมีคุณภาพและปริมาณมากขึ้น


นายนิทัศน์ ประธานกลุ่ม Young Smart Farmer ฉะเชิงเทรา ยังบอกอีกว่า ขณะนี้ทางกลุ่มได้มีการปรุงแต่งรสชาติสาโทแล้วจำนวน 3 รสชาติ ประกอบด้วย สาโทข้าวเหนียว ซึ่งพัฒนาขึ้นมาจากสาโทโบราณสูตรดั้งเดิมที่มีแอลกอฮอล์เข้มข้น เป็นสาโทในน้ำสีขาวค่อนข้างใสขึ้น และให้รสชาติที่อ่อนนุ่มยิ่งขึ้น ด้วยความหวานและมีความเปรี้ยวปิดท้ายคล้ายรสชาติของข้าวหมาก

นอกจากนั้น ยังได้นำลิ้นจี่มาพัฒนาทำเป็นสาโทลิ้นจี่ที่มีรสชาติหอมหวานละมุนคล้ายกับการดื่มน้ำลิ้นจี่ที่ยังมีรสชาติของสาโทดั้งเดิมผสมอยู่ด้วยในระดับแอลกอฮอล์อ่อนๆ ขนาด 5.5-6 ดีกรี (เปอร์เซ็นต์) และยังมีกลิ่นหอมของลิ้นจี่ ส่วนสีจะออกมาเป็นโทนขาวอมชมพู

“สูตรนี้เป็นที่ชื่นชอบของบรรดาสาวๆ ที่ได้มาลิ้มลองทดสอบแล้วว่ามีรสชาติที่ดี และเป็นผลิตภัณฑ์ตัวเด่นในการพัฒนาสาโททั้ง 3 สูตร”


สูตรสุดท้ายคือ สาโทมะม่วงบางคล้า สายพันธุ์อกร่อง ที่ให้กลิ่นหอมของมะม่วงสุกที่ชัดเจน ซึ่งเป็นการผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับผลผลิตมะม่วงจำนวนมากในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งรสชาติของสาโทมะม่วง จะมีเอกลักษณ์เฉพาะของมะม่วง ที่หมักจนกลายเป็นสาโทที่เป็นน้ำสีเหลืองอ่อนจากผลมะม่วงสุก 

“แต่ผลิตภัณฑ์สาโทที่ถูกพัฒนาทั้งหมดยังไม่สามารถนำวางจำหน่ายในตลาดได้ เนื่องจากยังติดขัดด้วยข้อจำกัดด้านกฎหมาย แม้ทางกลุ่มจะพยายามยื่นขออนุญาตเพื่อทำการผลิตและจำหน่ายต่อทางสรรพสามิต จ.ฉะเชิงเทรา มาแล้วถึง 2 ครั้ง แต่สุดท้ายเอกสารถูกตีโดยที่ทางกลุ่มยังไม่เคยได้รับโอกาสในการชี้แจงหรือนำเสนอข้อมูลในส่วนที่เป็นข้อสงสัยใดๆ ของเจ้าหน้าที่”

นายนิทัศน์ ยังเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณาเปิดช่องและผลักดัน พ.ร.บ.สุรา ให้มีการยกเลิกข้อจำกัดเกี่ยวกับการการผลิตสุราของผู้ประกอบการรายเล็กให้สามารถเติบโตได้ตามศักยภาพ และยังบอกอีกว่า กระแสสุราก้าวหน้า ทำให้ผู้คนพากันตื่นตัวที่จะได้เห็นสุราชุมชนของไทยซึ่งมีความหลากหลายได้มีโอกาสเติบโต และได้สร้างความภูมิใจในผลิตภัณฑ์ของคนไทยจากการปรุงแต่งจากฝีมือคนไทย 

เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่เข้าใาในประเทศไทยได้รู้จัก โดยเฉพาะการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรทั้งข้าว อ้อย ข้าวโพด หรือสินค้าเกษตรอื่นๆ


“วันนี้ไม่ว่าฝ่ายใดที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาล ถึงเวลาแล้วที่จะช่วยกันผลักดันให้ผลิตภัณฑ์ภาคเกษตรที่จะต้องไม่ใช่แค่การเป็นเพียงสินค้าโอทอปอีกต่อไป แต่จะต้องกลายเป็นสินค้าในระดับโลกเหมือนอย่างที่ได้เห็นตัวอย่างที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้วทั้งแบรนด์สังเวียน และกิโล (Kilo Spirits) ซึ่งถือเป็นผู้นำในเรื่องของสุราชุมชนที่จะไปไกลในระดับโลก และหากผู้นำรัฐบาลได้เข้ามาช่วยเสริมศักยภาพให้วิสาหกิจชุมชนมีกำลังการผลิตมากยิ่งขึ้น และสามารถทำการโฆษณาประชาสัมพันธ์ได้มากกว่านี้จะทำให้เกิดผู้ประกอบการรายย่อยที่สามารถพัฒนาสาโทเพื่อการส่งออกได้เช่นกัน” ประธานกลุ่ม Young Smart Farmer จ.ฉะเชิงเทรา กล่าว