ศูนย์ข่าวขอนแก่น - มหาวิทยาลัยขอนแก่นจับมือลิลลี่ ฟาร์มา ประกาศความสำเร็จ เปิดตัว Lily Nanoemulsion Homogenizer machine เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง ปฏิวัติรูปแบบวงการอุตสาหกรรม ยกระดับคุณภาพอาหาร ยา และเครื่องสำอาง โดยใช้เทคโนโลยีนาโนอีมัลชัน สามารถนำสารออกฤทธิ์มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
วันนี้ (14 มิ.ย.) ที่ห้อง Beegins ชั้น 1 อาคารอุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีพิธีแถลงข่าวเปิดตัวการประดิษฐ์เครื่อง Lily Nanoemulsion Homogenizer Machine เครื่อง Nanoemulsion Homogenizer Machine เป็นการผลิตใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ครั้งแรกในอาเซียน โดยมี รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นประธานการแถลงข่าว พร้อมด้วย ศ.ดร.มนต์ชัย ดวงจินดา รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น และนายเรวัต จินดาพล CEO บริษัท เคเคยู มิสลิลลี่ โฮลดิ้ง จำกัด (KKU Miss Lily Holding Co.,Ltd.) ร่วมแถลงข่าว
รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวถึงนโยบายมหาวิทยาลัยขอนแก่น ในการสร้าง startup โดยร่วมทุนกับภาคเอกชน ซึ่งให้ภาคเอกชนเป็นผู้ริเริ่ม โดยเริ่มจากมุมมองความต้องการของตลาดในผลิตภัณฑ์นั้นๆ และย้อนกลับมาดูกระบวนการผลิตว่าสามารถแข่งขันด้านเทคโนโลยีได้หรือไม่ หากเป็นไปได้ก็จะกลับมาค้นหากระบวนการวิจัยที่ทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ ซึ่งเราเรียกแนวคิดนี้ว่า เป็นการวิจัยสู่ตลาด โดยให้ภาคเอกชนเป็นผู้ทำการวิจัย การผลิต และนำออกสู่ตลาด
ส่วนบทบาทของมหาวิทยาลัยจะทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนอุปกรณ์ทางการวิจัยและการทดสอบผลิตภัณฑ์ รวมถึงจัดทีมอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละฝ่าย เพื่อให้คำปรึกษาแก่ภาคเอกชน ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีใหม่ในการทำ startup ของมหาวิทยาลัย โดยดำเนินการร่วมมือกับทางบริษัท มิส ลิลลี่ และได้ก่อตั้งบริษัทร่วมทุนในปี 2565 ซึ่งบริษัทร่วมทุนได้เน้นเทคโนโลยีทางด้านนาโนอีมัลชัน ทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น N-Dro care mouth spray
นอกจากนี้ บริษัทร่วมทุนได้นำความรู้มาต่อยอดสู่การผลิตเครื่องจักรนาโนอีมัลชันจนประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม ที่ต้องการให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและมหาวิทยาลัยเพื่อนำความรู้จากงานวิจัยออกสู่ตลาด
ขณะที่ ศ.ดร.มนต์ชัย ดวงจินดา รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวถึง
ทิศทางของเทคโนโลยีนาโนอีมัลชัน และงานวิจัยในหลายสาขาได้ให้ความสำคัญต่อการนำส่งสารในรูปแบบนาโนอีมัลชัน ซึ่งเป็นการนำสารออกฤทธิ์ให้อยู่ในส่วนของน้ำหรือน้ำมันที่มีขนาดอนุภาคนาโน โดยถูกผสานเข้าด้วยสารอีมัลซิไฟเออร์ ซึ่งเป็นการนำส่งสารที่มีประสิทธิภาพสูงสุดดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว และใช้สารในปริมาณน้อย
ลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อม มนุษย์ และสัตว์ ซึ่งปัจจุบันในหลายอุตสาหกรรมได้พยายามที่จะผลิตผลิตภัณฑ์ในรูปแบบนาโนอีมัลชันออกสู่ท้องตลาด ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมยา อุตสาหกรรมเกษตร เช่น ปุ๋ย ยาฆ่าแมลงและยากำจัดวัชพืช อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง อุตสาหกรรมอาหารและยาสัตว์ และอื่นๆ แต่ประเทศไทยยังมีปัญหาในการผลิต เนื่องจากเครื่องจักรดังกล่าวมีราคาที่สูงมาก
มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ร่วมมือกับบริษัท ลิลลี่ ฟาร์มา จำกัด ในการสร้างกระบวนการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูงนาโนอีมัลชัน โฮโมจีไนเซอร์ จากห้องปฏิบัติการสู่ภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นผลงานการวิจัยและพัฒนาโดยฝีมือคนไทย จากทีมงานนักวิจัยและวิศวกรของบริษัท ลิลลี่ ฟาร์มา จำกัด ที่สามารถนำข้อมูลและประสบการณ์จากห้องวิจัยที่มีข้อจำกัดมาพัฒนาใช้ในเชิงอุตสาหกรรม (Production Scale) มุ่งหมายเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับวงการอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีนาโนอีมัลชัน ซึ่งสามารถนำสารออกฤทธิ์มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันเรากำลังทำการวิจัย ทั้งยาสัตว์ ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง และยากำจัดวัชพืช รวมไปถึงอาหารเสริมที่อยู่ในรูปแบบนาโนอีมัลชัน
ด้านนายเรวัต จินดาพล CEO บริษัท เคเคยู มิสลิลลี่ โฮลดิ้ง จำกัด (KKU Miss Lily Holding Co.,Ltd.) เปิด เผยว่า จากการทํางานร่วมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่นอย่างใกล้ชิดตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทได้มุ่งเน้นในการพัฒนาเทคโนโลยีนาโนอิมัลชั่น โดยเริ่มตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เพื่อให้เรามี Technical know how ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบในห้องปฏิบัติการ จนสามารถนำไปสู่การผลิตในเชิงอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การผลิตในเชิงอุตสาหกรรมนั้น จะต้องใช้เครื่องจักรที่สามารถทำให้สารแตกตัวเป็นอนุภาคระดับนาโน โดยทั่วไปในต่างประเทศจะใช้เครื่อง High pressure nano homogenizer ซึ่งจะมีราคาแพงมาก เช่น ขนาด 300-500 ลิตร จะมีราคาหลักร้อยล้านบาท ทำให้อุตสาหกรรมทั่วไปมีข้อจำกัดในการลงทุนเครื่องจักรเหล่านี้ ทางทีมวิศวกรของบริษัท ลิลลี่ ฟาร์มา ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ KKU Miss Lily Holding ได้พัฒนาเครื่องจักรในรูปแบบ High speed nano homogenizer และเครื่องจักรพ่วง จนทำให้เราเป็นผู้นำในการผลิตเครื่องจักรนาโนอิมัลชั่นในกลุ่มอาเซียน
เรามีนโยบายที่จะนำเครื่องจักรนี้ไปร่วมมือกับภาคเอกชนในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ให้อยู่ในรูปแบบนาโนอิมัลชั่น โดยบริษัท ลิลลี่ ฟาร์มา จะช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้อยู่ในรูปแบบนาโนอิมัลชั่นและนำไปสู่การผลิตในเชิงอุตสาหกรรม โดยการสนับสนุนของทางบริษัทและมหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อให้ประเทศไทยกลายเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีนี้ ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ในทางเศรษฐกิจ สำหรับองค์กรที่สนใจสามารถติดต่อ บริษัท ลิลลี่ ฟาร์มา จำกัด คุณศิรินทร์ ใต้ชัยภูมิ โทร. 086-319-0270
ด้านนายฐาปกรณ์ อุประ Chief of Technology officer บริษัท ลิลลี่ ฟาร์มา จำกัด กล่าวว่า จุดเด่นของเครื่อง High speed nano homogenizer คือ เทคนิคการเฉือนอนุภาค (Shearing) ด้วยใบพัดปั่นที่มีความเร็วสูง และมีหัวปั่นพร้อมกัน 3 หัว (Vertical Multiple Rotor Stator Head) ซึ่งทำให้อนุภาคมีขนาดที่เล็กลงกว่า 100 นาโนเมตร และมีความสม่ำเสมอของขนาด เนื่องจากมีหัวปั่นที่เรียงตัวอยู่ 3 ระดับในถัง
นอกจากนี้ เครื่องจักรพ่วงอื่นๆ เช่น Oil mixer และ Water mixer ยังมีถังน้ำควบคุมอุณหภูมิในระหว่างกระบวนการผลิต ซึ่งสามารถผลิตในระบบสุญญากาศได้ ทำให้เครื่องจักรดังกล่าวสามารถผลิตสารนาโนอีมัลชันให้มีคุณภาพตามมาตรฐานที่ห้องวิจัยได้กำหนดไว้ นอกจากนี้ เทคโนโลยี High speed nano homogenizer ยังช่วยให้ประหยัดเวลาและพลังงานในการผลิต รวมถึงประหยัดต้นทุนในการบำรุงรักษาน้อยลงกว่าระบบอื่นมาก