ลพบุรี - เปิดโปงฉมหน้าแท้จริง นักบุญจิตอาสาบริจาคเงินสิ่งของช่วยชาวบ้าน อ้างข้าราชการคนใหญ่โต ที่แท้เป็นตัวโกงหลอกตุ๋นเงินนักธุรกิจ พ่อค้า ร่วมเล่นและซื้อมือแชร์ รวมทั้งยืมเงินแล้วไม่จ่าย ผู้เสียหายนับสิบรายสูญเงินหลายล้านบาท เจ้าทุกข์ต้องการดำเนินคดีอาญา หวั่นเป็นภัยต่อสังคม
วันนี้ (9 มิ.ย.) ร.ต.อ.วีรพันธ์ ชื่นชม รอง สว.สส.สภ.เมืองลพบุรี ได้การร้องเรียนจาก นายวรเวช จอมววงษ์ อายุ 37 ปี และ น.ส.ธนวรรณ หิรัญพงษ์ อายุ 36 ปี และพวก โดยได้แจ้งว่า ตนเองและพวกได้ถูกนายจักรินทร์ สุวรรณเพ็ชร์ หรือโดมข้าวมันไก่ ซึ่งเปิดร้านขายข้าวมันไก่ที่มีชื่อเสียงของลพบุรี ได้หลอกให้ลงทุนร่วมเล่นแชร์ และซื้อมือแชร์ โดยให้ราคากำไรอย่างดี โดยการติดต่อมาทางอินบ็อกซ์ และมีการอ้างชื่อพร้อมภาพถ่ายคู่กับนายทหารระดับสูง และสร้างพฤติกรรมตัวเองให้เป็นที่รู้จัก
โดยการทำกิจกรรมจิตอาสา ช่วยเหลือประชาชน โดยการบริจาคสิ่งของ เงิน และอาหารเป็นหน้าฉาก โดยกลุ่มผู้เสียหายที่ร่วมเล่นแชร์ ดูจากพฤติกรรมของนายจักรินทร์แล้วเป็นที่น่าเชื่อถือ จึงร่วมเล่นและซื้อมือแชร์ และผู้เสียหายบางรายให้ยืมเงิน โดยนายจักรินทร์ ยื่นขอเสนอเป็นที่น่าพอใจ แต่หลังจากนั้น เมื่อผู้เสียหายทวงถามเงินได้รับการปฏิเสธจากนายจักรรินทร์ ในเรื่องการคืนเงิน โดยบอกว่า ไม่โกงแต่ไม่มีให้ และยังมีการข่มขู่ผู้เสียหายอีกว่าจะไปแจ้งความว่าผู้เสียหายมาขู่กรรโชก โดยอ้างว่า ตนเองรู้จักนายตำรวจใหญ่
ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้กลุ่มผู้เสียหายจึงนำหลักฐาน มาลงบันทึกประจำวัน เพื่อดำเนินคดีนายจักรินทร์ โดยพวกตนเองไม่ต้องการเงินคืน เพราะรู้ว่าอย่างไรก็ตามคงไม่ได้คืนแน่ แต่อยากให้ดำเนินคดีอาญา เพราะเท่าที่รู้มาว่านายจักรินทร์ จะทำการหลอกเอาเงินจากคนใหม่มาเรื่อยๆ แล้วมาผ่อนจ่ายให้คนเก่า ถ้าปล่อยไว้จะเป็นภัยต่อสังคม และคนอื่นอีกอย่างแน่นอน
ทางด้าน พ.ต.อ.รักศักดิ์ เมฆจินดา ผกก.สภ.เมืองลพบุรี กล่าวว่า ในขณะนี้ให้พนักงานสอบสวนรับเรื่องราวร้องทุกข์กับผู้เสียหายทั้งหมดไว้ และจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาทำการสอบสวนข้อเท็จจริงจากผู้เสียหาย และให้ผู้เสียหายเตรียมเอกสารหลักฐานต่างๆ มาให้มากที่สุด โดยเฉพาะรายการที่มีการโอนเงินให้นายจักรินทร์
นอกจากนี้ ผกก.เมืองลพบุรี ยังได้เปิดเผยว่า นายจักรินทร์ หรือโดม ได้โทร.เข้ามาหา ซึ่งตนเองบอกไปว่าให้มาเคลียร์กับผู้เสียหาย แต่ตนเองคิดว่ายาก เพราะเงินคงไม่มีแล้ว ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการสอบสวนเส้นทางการเงินที่มีการโอนไปให้นายจักรินทร์ ว่าไปอยู่ไหน
อย่างไรก็ตาม ทางผู้เสียหายได้มีการตั้งกลุ่มไลน์ขึ้นมา เพื่อให้ผู้เสียหายเข้าร่วมกลุ่ม และช่วยกันนำหลักฐานมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยตำรวจจะเป็นผู้ชี้แนวทาง จะได้รับทราบไปพร้อมกัน และดำเนินการได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วยิ่งขึ้น