สกลนคร - ชาวบ้านกว่า 30 คนเดือด บุกอำเภอพรรณานิคมทวงถามเงินกับ จนท.อบต.แห่งหนึ่ง อ้างฝากงานสอบ
ขรก.ท้องถิ่นในตำแหน่งต่างๆ มีผู้หลงเชื่อเสียเงินให้รายละหลายแสนบาท สุดท้ายกลับไม่ได้งาน ขอเงินคืนก็แห้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 66 ได้มีชาวบ้านที่เป็นผู้เสียหายกว่า 30 คน รวมตัวเข้ามาร้องเรียนว่าพวกตนได้รับความเดือดร้อนจากการถูกเจ้าหน้าที่ของ อบต.แห่งหนึ่งใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนครฉ้อโกง โดยอ้างว่าสามารถฝากสอบเข้าทำงานเป็นข้าราชการท้องถิ่นในตำแหน่งต่างๆ ได้ โดยเสียเงินรายละ 150,000-500,000 บาท
ผู้เสียหายรายหนึ่งเล่าว่า ครั้งแรกเขาได้มาบอกว่าจะฝากสอบเป็นข้าราชการท้องถิ่นให้ได้ แต่จะต้องจ่ายเงินให้ 1.5 แสน ก่อน แล้วบอกว่าใกล้จะสอบแล้ว หากต้องการจะได้ตำแหน่งที่ต้องการจะต้องเสียเงินเพิ่มอีกหลักแสนบาท สุดท้ายกลับไม่ได้ พอทวงถามก็ผัดวันไปเรื่อยๆ
ขณะที่ น.ส.ภิรมย์ ก้อนแพง ปลัดอำเภออาวุโสอำเภอพรรณานิคม ได้มารับเรื่องและนัดผู้เสียหายทั้งหมดมาที่ที่ว่าการอำเภออีกครั้งในเวลา 15.00 น. โดยนัดนายอำเภอ, ผกก.สภ.พรรณานิคม นายก อบต.ช้างมิ่ง และ จนท.เจ้าปัญหามาเจอกัน เพื่อหาทางคลี่คลายปัญหา
ต่อมาวันเดียวกัน นายยรรยง พรมศร นายอำเภอพรรณานิคม พ.ต.ท.สนั่น คำสีเขียว รอง ผกก.สส.สภ.พรรณานิคม นายสมเกียรติ โรจนวรกมล ทนายความ รับมอบหมายจากผู้เสียหายและสังเกตการณ์ นายอุกฤษณ์ บาลลา นายก อบต.ช้างมิ่ง ปลัดอำเภออาวุโส ท้องถิ่นอำเภอ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ถูกกล่าวหา (ผู้หญิงสวมเสื้อเหลืองนั่งด้านหน้า) และผู้เสียหายกว่า 30 ราย ได้มาพูดคุยชี้แจงกัน โดยนายอำเภอได้ให้ผู้ร้องเรียนกล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และ จนท.ท้องถิ่นที่ถูกกล่าวหาได้ชี้แจงว่า กองทุนขยะนั้นสามารถชี้แจงได้ เพราะได้รายงานไปยัง ป.ป.ช.สกลนครแล้วเพราะโดนร้องเรียน โดยที่ประชุมเห็นว่าควรไปตรวจสอบสมุดรายรับรายจ่ายก่อนเพื่อหาข้อเท็จจริง
นายยรรยง พรมศร นายอำเภอพรรณานิคม กล่าวอีกว่า ประเด็นเข้าข่ายลักษณะฉ้อโกงกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ถูกกล่าวหา ว่าจริงไหมที่รับเงินจากผู้เสียหายเพื่ออยากฝากเป็นข้าราชการท้องถิ่น โดยเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวยอมรับว่าจริง แต่ตนเองไม่มีหน้าที่ในการรับข้าราชการ แต่ได้ส่งเงินให้คณะทำงานของปลัดกระทรวงมหาดไทยรายหนึ่ง โดยได้ค่าแนะนำรายละ 50,000 บาท ทนายสมเกียรติฯ ได้ซักถาม จนท.ท้องถิ่นที่ถูกกล่าวหาว่า เงินที่ผู้เสียหายได้จ่ายไปนั้นจะชดใช้คืนอย่างไร โดยเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวบอกว่าตนก็พยายามสอบถามเงินคืนเพราะฝากงานไม่สำเร็จและจะรีบทยอยเคลียร์ปัญหา
ทนายสมเกียรติได้ซักถามต่อว่ามีการโยกย้ายถ่ายเทสินทรัพย์ไปที่อื่นหรือไม่ ผู้ถูกกล่าวหาตอบว่าไม่จริง เงินที่ได้มาก็นำไปมอบให้แก่คณะทำงานฯ ไปแล้ว จึงไม่มีคำตอบว่าจะชดใช้อย่างไร แต่ยืนยันจะพยายามชดใช้ทีละรายไป ทั้งหมดจึงทำบันทึกไว้เป็นหลักฐานว่ากลุ่มฝากงานมีกี่ราย งานกู้ยืม เงินซื้องานรับเหมาที่จะต้องชดใช้โดยให้ผู้เสียหายไปแจ้งความที่เกี่ยวกับคดี เพื่อที่จะฟ้องร้องหากมีการบิดพลิ้ว
ขณะที่ชาวบ้านในอำเภอพรรณานิคมกว่า 20 ราย ซึ่งเป็นสมาชิกกองทุนขยะของ อบต.แห่งหนึ่ง กว่า 1 พันคน ได้มาร่วมร้องสมทบว่าไม่มีความโปร่งใสในเรื่องดังกล่าว ซึ่ง จนท.ท้องถิ่นคนดังกล่าวยืนยันตรวจสอบได้ถึงที่ไปที่มา อย่างไรก็ตาม สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.สกลนคร ได้รับรายงานทางวาจาแล้ว เบื้องต้นได้แนะนำให้ผู้เสียหายเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนที่เกิดเหตุนั้นๆ แล้วเข้ามาร้องเรียนที่ ป.ป.ช.จังหวัดสกลนคร เพื่อดำเนินการที่เกี่ยวข้อง และรายงานไปยัง ผวจ.สกลนคร ในการดำเนินการต่อไป
ด้าน นายสมเกียรติ โรจนวรกมล ทนายความ กล่าวว่า จากการที่ยอมรับสภาพหนี้แล้วโดยมีสักขีพยาน เรื่องนี้หากเจ้าตัวเกิดเบี้ยวขึ้นมาโดยไม่ชดใช้ให้ผู้เสียหายก็สามารถที่จะฟ้องร้องได้ เพราะเจ้าตัวก็รับสารภาพว่าไม่มีการฝากงานจริง ไม่มีการซื้อขายงานจริง และแนะนำผู้เสียหายให้ดำเนินคดีทางกฎหมายนอกเหนือจากที่ตกลงกันวันนี้