เชียงราย - ตำรวจไซเบอร์ภาค 5 บุกจับแก๊งจีนไม่กลัวบาป..ชวนสาวเครือข่ายปอยเปตเช่าตึกกลางเมืองเชียงรายตั้งเป็นศูนย์บัญชาการ จ้างพนักงานเปิดเฟซฯ-เพจ/แอปฯ “ทัวร์บุญ” ลวงสายบุญโอนเงินทั้งวันทั้งคืน ตั้งข้อหา “อั้งยี่ซ่องโจร”
เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.) ภ.5 เจ้าหน้าที่ตำรวจวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.ภ.5 กก.สส.1 และ กก.สส.3 ภ.5 กก.สส.ภ.จว.เชียงราย กก.สส.บก.ตม.5 และ ตม.จว.เชียงราย รวมทั้ง สภ.เมืองเชียงราย บก.ทท.2 ได้บุกจับกุมแก๊งตุ๋นออนไลน์-คอลเซ็นเตอร์ เครือข่ายปอยเปต กลางเมืองเชียงราย เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 66 ที่ผ่านมา
ซึ่งสามารถจับกุมนายจู ฮ่วน เซี่ยง (Zhu Huan Xiang) ชาวจีน พร้อมด้วย น.ส.ช่อผกา สาวไทยวัย 28 ปี ชาว อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย น.ส.ศิริพร อายุ 19 ปี ชาว อ.จุน จ.พะเยา นายณัฏฐพงศ์ อายุ 24 ปี ชาว อ.แม่จัน จ.เชียงราย นายยุทธการ ชาว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย นายกฤษฌพงษ์ อายุ 29 ปี ชาว อ.เชียงแสน น.ส.นพวรรณ ชาว อ.เชียงแสน นายธญาณวุฒิ ชาว อ.เชียงแสน และ น.ส.ทิพย์ศิริ อายุ 28 ปี ชาว อ.เทิง
ดำเนินคดีทั้งหมดในข้อหา "ร่วมกันเป็นอั้งยี่ ร่วมกันเป็นซ่องโจร ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน"
และกรณีนายจู ฮ่วน เซี่ยง ดำเนินคดีเพิ่มเติมในข้อหา "เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ" และ น.ส.ช่อผกา ดำเนินคดีเพิ่มเติมในข้อหา "ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่รู้ว่าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ"
การจับกุมผู้ต้องหาแก๊งนี้มีขึ้นหลังจาก ศปอส.ภ.5 สืบทราบว่ามีคนสร้างเฟซบุ๊กปลอม นำภาพวัด ศาลหลักเมือง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ฯลฯ ที่มีผู้เคารพบูชามาอ้างอิง และใช้ภาพคนที่มีหน้าตาดีหลอกให้คนโอนเงินไปทำบุญ ซึ่งเหยื่อส่วนใหญ่จะเป็นผู้ศรัทธาในการทำบุญหรือสายบุญและผู้ที่มีจิตใจอ่อนแอ เช่น คิดว่าตัวเองโชคไม่ดีหรือดวงตก คนทำแท้งมาก่อน ฯลฯ
เมื่อเหยื่อเข้าไปสนทนาผ่านเฟซบุ๊กนี้ ก็จะถูกหว่านล้อมไปต่างๆ นานา เช่น ทำบุญแล้วสะเดาะเคราะห์แก้ดวงชะตาให้ได้ มีการปล่อยนกปล่อยปลาให้ทำให้ชีวิตจะดีขึ้น ฯลฯ พอเหยื่อหลงเชื่อก็จะให้โหลดแอพพลิเคชั่นชื่อ "ทัวร์บุญ" เพื่อให้กรอกข้อมูลและโอนเงินทำบุญเข้าบัญชีก่อน 199 บาท จากนั้นให้เลือกทำบุญในรูปแบบต่างๆ เริ่มตั้งแต่จำนวนเงิน 19 บาท 29 บาท 39 บาท 59 บาท และ 69 บาทต่อการทำบุญ 1 ครั้ง กระทั่งเหยื่อโอนเงินทำบุญจนครบถ้วนแล้วก็จะบล็อกเฟซบุ๊กปิดการสื่อสารเหยื่อรายนั้นๆ ทุกช่องทางเพื่อป้องกันการตรวจสอบ
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสืบสวนจนทราบว่าขบวนการดังกล่าวได้เช่าอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 5 ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย เป็นสถานที่ก่อเหตุ จึงได้ขออนุมัติหมายค้นศาล จ.เชียงราย ที่ 168/2566 ลงวันที่ 1 มิ.ย. 2566 จากนั้นได้สนธิกำลังกันเข้าไปตรวจค้น พบ น.ส.ช่อผกา เป็นผู้เช่าและที่ห้องโถงชั้นล่างเปิดเป็นสถานที่ทำงานหรือออฟฟิศ
ขณะเข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบ น.ส.ช่อผกา และผู้ต้องหาชาวไทยทั้งหมด นั่งทำงานกันอยู่ที่โต๊ะคอมพิวเตอร์โดยมีนายจู ฮ่วน เซี่ยง เป็นผู้สั่งงาน เจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบพบคอมพิวเตอร์ 7 เครื่อง จอคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง เราเตอร์ บัญชีธนาคาร ใบนำฝากเงินธนาคาร กระดาษจดข้อความเชิญชวนให้คนทำบุญกับแอปพลิเคชัน “ทัวร์บุญ” โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ จึงได้จับกุมตัวทั้งหมดเอาไว้
สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าเมื่อปี 2565 น.ส.ช่อผกาได้ไปทำงานที่เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ได้รู้จักกับนายจู ฮ่วน เซี่ยง เมื่อ น.ส.ช่อผกากลับบ้านช่วงต้นปี 2566 นายจู ฮ่วน เซี่ยง และชาวจีนอีกคนชื่อนาย "เปี้ยวเกอ" ได้ติดต่อชักชวนให้เปิดออฟฟิศทัวร์บุญดังกล่าว โดยให้ น.ส.ช่อผกา เช่าสถานที่ ติดตั้งระบบอินเทอร์เน็ตและจัดหาพนักงาน
เมื่อได้พนักงานแล้วชาวจีนทั้ง 2 คนได้สอนให้เปิดเฟซบุ๊กใหม่ 2 บัญชี โดยใช้ชื่อปลอมและใช้ภาพบุคคลอื่นแล้วโพสต์ในกลุ่มที่เกี่ยวกับการทำบุญออนไลน์ รวมทั้งเปิดเพจชื่อว่า "ทัวร์บุญ" โดยให้พนักงานช่วยกันกดไลก์กดแชร์เพื่อสร้างกระแสทัวร์บุญขึ้นมา จากนั้นให้ติดต่อพูดคุยกับคนในสายบุญอย่างสนิทสนม ไม่เว้นการพูดคุยเชิงชู้สาวเพื่อหลอกให้ทำบุญ
ชาวจีนทั้ง 2 คนจะจัดแบ่งเงินที่ได้มา เป็นค่าเงินเดือนคนละตั้งแต่ 13,000-25,000 บาท ทำงานตั้งแต่เวลา 09.00-22.00 น. ยกเว้นวันอาทิตย์จะทำงาน 14.00-22.00 น. เจ้าหน้าที่จึงควบคุมทั้งหมดดำเนินคดีและขยายผลหาตัวผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป